<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Steemit โปรเจกต์คริปโตอันดับที่ 48 ไล่พนักงานออกมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากตลาดขาลง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Steemit ไล่พนักงานออกมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากตลาดหมีอันยาวนานของตลาดคริปโต

อ้างอิงจากวิดีโอ Youtube ที่เพิ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา นาย Ned Scott CEO และผู้ก่อตั้ง Steemit ได้ออกมาประกาศว่า:

“ในขณะที่เรากำลังขยายทีมของโปรเจกต์ในหลายเดือนที่ผ่านมา การคำนวณของเรานั้นได้คาดการณ์ไว้ในราคาเหรียญที่สูงกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่า ความจริงจะไม่เป็นแบบนั้น เราเลยถูกบังคับให้ต้องไล่พนักงานออกมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และเริ่มที่จะปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด”

ในประกาศไม่ได้ระบุจำนวนที่ชัดเจนไว้ว่า ได้ออกไปทั้งหมดกี่คน และตอนนี้มีเหลืออยู่กี่คน

ผลกระทบของตลาดขาลง

นาย Scott ได้อธิบายว่า ผลกระทบของราคาตลาดของคริปโตที่ลดลง ทำให้พวกเขามีรายได้ไม่มากพอที่จะสามารถครอบคลุม “ค่าใช้จ่ายในการรัน Full Steem Nodes” ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

Steemit คือแพลตฟอร์ม Social Media แบบ Decentralized ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อที่จะให้รางวัลแก่ผู้ที่เผยแพร่คอนเทนต์ในแพลตฟอร์มเป็นโทเคน STEEM ซึ่งสามารถนำไปขายต่ออีกรอบเป็นเงินจริง ๆ ในตลาดทั่วไปได้

โปรเจกต์ดังกล่าวถือกำเนิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2016 และอ้างอิงจาก Coinmarketcap ได้กลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์คริปโตยักษ์ใหญ่ในตลาดคริปโตด้วยมูลค่ากว่า 108 ล้านดอลลาร์ และปัจจุบันมันอยู่ในอันดับ 48

นาย Scott ได้เน้นย้ำว่า สภาพการเงินของโปรเจกต์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่จะยืดหยัดสู้กับตลาดหมีต่อไป ถึงแม้จะไม่รู้ว่า เมื่อไรจะกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้งก็ตาม

“สิ่งเดียวที่ผมต้องการตอนนี้คือความอยู่รอด ผมต้องการให้ steemit.com ยังคงดำเนินการต่อไปได้ ทำให้เจตจำนงค์ยังคงอยู่ เพื่อที่จะสร้างชุมชนที่ยอดเยี่ยม”

ตลาดขาลงนั้นส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ อย่าง มีบริษัทในวงการมากมายที่เสียหาย เช่นโปรเจกต์ ICO ที่มูลค่าของคริปโตที่ระดมทุนได้มาน้อยลง ทำให้มีทุนไปพัฒนาต่อยอดน้อยลงตาม, บริษัทผลิตเครื่องขุดคริปโตเช่น Bitmain ก็พบกับการระบายของไม่ทันเนื่องจากไม่มีคนซื้อ หรือบริษัทผลิตการ์ดจออย่าง Nvidia เองก็มีผลประกอบการจากวงการคริปโตที่น้อยลงเช่นกัน ซึ่งหากตลาดหมียังคงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้ คงได้เห็นโปรเจกต์จำนวนมากล้มหายตายจากอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำให้เหลือเพียงแต่โปรเจกต์ดี ๆ ที่เหลือรอด

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น