นาย Gong-pil Choi ผู้บริหารของ Korea Institute of Finance กล่าวว่า การคุ้มครองสินทรัพย์ในคริปโตนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะกำจัดความกลัวในการถูกแฮ็กและเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญให้ตลาดเติบโตได้
Korea Institute of Finance คือหน่วยงานที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อวิจัยและประเมินนโยบายทางการเงินในประเทศเพื่อที่จะช่วยอุตสาหกรรมการเงิน พวกเขาได้ทำการชี้ว่า การดูแลจัดการ Private Keys ในการเข้าถึง Bitcoin และคริปโตสกุลอื่น ๆ นั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเกินไปสำหรับนักลงทุนทั่วไป
การคุ้มครองสินทรัพย์คือกุญแจในการเติบโต
ตัวกลางและผู้ที่จัดการสินทรัพย์นั้นจะคอยให้บริการคุ้มครองสำหรับสินทรัพย์ทั่วไป เนื่องจากมีความเสี่ยงในการถือครองสินทรัพย์เหล่านั้น
ในส่วนนั้นเอง นาย Choi ได้กล่าวว่า ในอีกไม่นาน ตลาดการคุ้มครองสินทรัพย์ในวงการคริปโตจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเนื่องจากต้องการความปลอดภัยในการถือครอง
“เว็บเทรดคริปโตนั้นค่อนข้างมีความเสี่ยงเนื่องจากสามารถถูกแฮ็กได้และการเก็บ Private Keys นั้นเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับนักลงทุน และเมื่อถูกขโมยมันก็สร้างปัญหาได้ ขนาดตลาดการเงินทั่วไปยังมีบริการคุ้มครองสินทรัพย์เลย แต่ในตลาดคริปโตที่มีความเสี่ยงมากกว่ากลับไม่มี ตลาดดูแลสินทรัพย์ในคริปโตจะเติบโตอย่างรวดเร็วในเร็ว ๆ นี้”
แน่นอนว่า การคุ้มครองสินทรัพย์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เว็บเทรดยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ เช่น Coinbase เลยเริ่มที่จะโฟกัสไปยังส่วนดังกล่าว โดยการเริ่มให้บริการคุ้มครองสำหรับนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนระดับสถาบัน
ธุรกิจที่มีอยู่แล้วเช่น BitGo ที่ให้บริการคุ้มครองสินทรัพย์คริปโตก็เริ่มได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อย ๆ
ความเสี่ยงในการลงทุนคริปโตนั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ในระดับที่ประเทศจีนได้ออกกฎหมายมาปราบปรามเว็บและการเทรดคริปโตในประเทศเลยทีเดียว
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นาย Kenneth Xu CEO ของสตาร์ทอัพด้านคริปโต เผยว่า ความต้องการของการคุ้มครองสินทรัพย์ระดับสถาบันนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะฮ่องกง และสิงคโปร์
นอกจากนี้ นาย Hyun-cheol ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทที่ลงทุนด้าน Blockchain ยักษ์ใหญ่ในเกาหลีใต้ เผยว่า การให้บริการคุ้มครองสินทรัพย์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้เลย หากลูกค้าต้องการลงทุนก้อนใหญ่ ๆ
“ถ้าผู้ที่ดูแลสินทรัพย์มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ลงทุนในคริปโตประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ มันก็คือเงินก้อนใหญ่เหมือนกัน สถาบันต่าง ๆ เหล่านี้จะเข้ามาในตลาดคริปโตก็ต่อเมื่อมีเครื่องที่ป้องกันการลงทุนของพวกเขา และต้องมีโครงสร้างที่รองรับนักลงทุนสถาบันได้ก่อน”
อีกไม่นาน
อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่า เป้าหมายดังกล่าวจะไกลเกินเอื้อม เพราะสถาบันยักษ์ใหญ่เช่น Fidelity ก็เริ่มให้บริการเทรดคริปโตสำหรับลูกค้าของพวกเขาแล้ว หรือ Goldman Sachs และ Morgan Stanley ก็ได้แสดงความสนใจและประกาศแผนที่จะเข้ามามีบทบาทในวงการเช่นกัน ซึ่งต้องรอคอยต่อไปให้วงการเติบโตแข็งแกร่งมากกว่านี้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น