เจ้าหน้าที่แผนกกลยุทธของ Human Rights Foundation ได้เผยแพร่บทความลงในนิตยสาร Time หัวข้อ “ทำไม Bitcoin จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อเสรีภาพ” ซึ่งได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก
นาย Alex Gladstein ได้เข้าไปพูดใน Oslo Freedom Forum เขากล่าวเกี่ยวกับเรื่อง Bitcoin ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาสภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรงของประเทศเวเนซูเอล่า ในช่วงที่ประเทศเวเนซูเอล่าประสบสภาวะเงินเฟ้อรุนแรง เงิน Bolivare ของเวเนซูเอล่าได้กลายเป็นเศษกระดาษอย่างแท้จริง
“แต่ในวันนี้ประเทศเวเนซูเอล่าได้ทดลองและนำ Bitcoin มาใช้เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงและการควบคุมทางการเงินที่เคร่งครัดจากรัฐบาล” คุณ Gladstein กล่าว
“การเก็งกำไร การฉ้อโกงและความโลภในคริปโตเคอร์เรนซีและเทคโนโลยี Blockchain มันบิดเบือนเจตนารมย์ที่แท้จริงของ Satoshi Nakamoto ในโลกที่ผู้คนอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาล Bitcoin จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญสำหรับการป้องกันการถูกเซนเซอร์ (censorship resistant) ของสื่อกลางการแลกเปลี่ยน (medium of exchange)”
“Why Bitcoin matters for freedom” https://t.co/jKBAroePsc
— TIME (@TIME) December 28, 2018
นอกจากนั้นแล้ว นาย Gladstein ยังกล่าวเกี่ยวกับการที่ Bitcoin สามารถทำให้ชาวเวเนซูเอล่าทำการโอนเงินไปให้กับคนรักของพวกเขาได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่สูงเกินจำเป็น
“พวกเขาสามารถส่งข้อความถึงครอบครัวเพื่อส่งและรับ Bitcoin ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยเสียค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยมาก” เขากล่าว
“การเซนเซอร์จากรัฐบาลก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่า Bitcoin ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางหรือธนาคารหรือบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ในทางกลับกัน Bitcoin จะถูกโอนเขามาในวอลเล็ทที่อยู่ในโทรศัพท์ของเราได้แบบ peer-to-peer เลย”
นอกจากประเทศเวเนซูเอล่าแล้วก็ยังมีประเทศอื่น ๆ ที่นำ Bitcoin เข้ามาแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน เช่น ประเทศซิมบับเว ที่ประสบปัญหาช่วงประธานาธิบดี Robvert Mugabe ดำรงตำแหน่งได้เกิดการพิมพ์ธนบัตรออกมามากมายจนประสบภาวะเงินเฟ้อ แต่เมื่อมี Bitcoin ผู้ดำรงตำแหน่งต่อ ๆ มาของเขาจะไม่สามารถพิมพ์ Bitcoin เพิ่มออกมาได้ หรือในประเทศจีน นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศจีนสามารถที่จะติดตามธุรกรรมที่คุณทำทั้งหมดผ่านทาง WePay แต่เมื่อมีการชำระเงินด้วย Bitcoin เกิดขึ้น รัฐบาลจะไม่สามารถเข้ามาสอดแนมธุรกรรมของเราได้อีก
My @TIME column on why bitcoin matters for freedom. For billions living under authoritarianism, it can be an alternative money system and an escape from economic control. And for all of us, it preserves the peer-to-peer virtues of cash in an increasingly digital financial world. https://t.co/vmyhwlOVJr
— Alex Gladstein (@gladstein) December 28, 2018
แต่อย่างไรก็ตามนาย Gladstein ก็รู้ว่าเงินดิจิทัลนี้ยังมีอะไรที่ท้าทายอยู่อีกมากที่จะต้องประสบพบเจอ
“Bitcoin ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดใหม่ ยังคงไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ให้ความทันสมัย ความเร็วหรือความเป็นส่วนตัวมากที่สุด”
“แต่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ก็พยายามที่จะพัฒนามันให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยการสร้างแอปหรืออัพเกรดโปรโตคอลหรือสร้างเทคโนโลยีอื่น ๆ อีก เช่น Lightning Network ขึ้นมาที่จะช่วยให้การทำธุรกรรมทาง Bitcoin มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
“ก็เหมือนกับช่วงแรกเริ่มที่มีโทรศัพท์มือถือ ราคาในตอนนั้นของมันสูงมากแถมไม่ได้มีฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษและถูกจำกัดไว้เฉพาะกลุ่มคนรวยที่สามารถซื้อมือถือได้ Bitcoin ก็เช่นกัน มันจะถูกพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นและถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในวงกว้างมากยิ่งขึ้นในอนาคต”
ที่มา micky.com.au
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น