<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นิตยสาร Time ยอมรับข้อดีของ Bitcoin ตีพิมพ์บทความด้านบวกให้ผู้คนเห็นทั่วโลก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เจ้าหน้าที่แผนกกลยุทธของ Human Rights Foundation ได้เผยแพร่บทความลงในนิตยสาร Time หัวข้อ “ทำไม Bitcoin จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อเสรีภาพ” ซึ่งได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก

นาย Alex Gladstein ได้เข้าไปพูดใน Oslo Freedom Forum เขากล่าวเกี่ยวกับเรื่อง Bitcoin ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาสภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรงของประเทศเวเนซูเอล่า ในช่วงที่ประเทศเวเนซูเอล่าประสบสภาวะเงินเฟ้อรุนแรง เงิน Bolivare ของเวเนซูเอล่าได้กลายเป็นเศษกระดาษอย่างแท้จริง

“แต่ในวันนี้ประเทศเวเนซูเอล่าได้ทดลองและนำ Bitcoin มาใช้เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงและการควบคุมทางการเงินที่เคร่งครัดจากรัฐบาล” คุณ Gladstein กล่าว

“การเก็งกำไร การฉ้อโกงและความโลภในคริปโตเคอร์เรนซีและเทคโนโลยี Blockchain มันบิดเบือนเจตนารมย์ที่แท้จริงของ Satoshi Nakamoto  ในโลกที่ผู้คนอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาล Bitcoin จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญสำหรับการป้องกันการถูกเซนเซอร์ (censorship resistant) ของสื่อกลางการแลกเปลี่ยน (medium of exchange)”

นอกจากนั้นแล้ว นาย Gladstein ยังกล่าวเกี่ยวกับการที่ Bitcoin สามารถทำให้ชาวเวเนซูเอล่าทำการโอนเงินไปให้กับคนรักของพวกเขาได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่สูงเกินจำเป็น

“พวกเขาสามารถส่งข้อความถึงครอบครัวเพื่อส่งและรับ Bitcoin ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยเสียค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยมาก” เขากล่าว

“การเซนเซอร์จากรัฐบาลก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่า Bitcoin ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางหรือธนาคารหรือบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ในทางกลับกัน Bitcoin จะถูกโอนเขามาในวอลเล็ทที่อยู่ในโทรศัพท์ของเราได้แบบ peer-to-peer เลย”

นอกจากประเทศเวเนซูเอล่าแล้วก็ยังมีประเทศอื่น ๆ ที่นำ Bitcoin เข้ามาแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน เช่น ประเทศซิมบับเว ที่ประสบปัญหาช่วงประธานาธิบดี Robvert Mugabe ดำรงตำแหน่งได้เกิดการพิมพ์ธนบัตรออกมามากมายจนประสบภาวะเงินเฟ้อ แต่เมื่อมี Bitcoin ผู้ดำรงตำแหน่งต่อ ๆ มาของเขาจะไม่สามารถพิมพ์ Bitcoin เพิ่มออกมาได้ หรือในประเทศจีน นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศจีนสามารถที่จะติดตามธุรกรรมที่คุณทำทั้งหมดผ่านทาง WePay แต่เมื่อมีการชำระเงินด้วย Bitcoin เกิดขึ้น รัฐบาลจะไม่สามารถเข้ามาสอดแนมธุรกรรมของเราได้อีก

แต่อย่างไรก็ตามนาย Gladstein ก็รู้ว่าเงินดิจิทัลนี้ยังมีอะไรที่ท้าทายอยู่อีกมากที่จะต้องประสบพบเจอ 

“Bitcoin ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดใหม่ ยังคงไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ให้ความทันสมัย ความเร็วหรือความเป็นส่วนตัวมากที่สุด”

“แต่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ก็พยายามที่จะพัฒนามันให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยการสร้างแอปหรืออัพเกรดโปรโตคอลหรือสร้างเทคโนโลยีอื่น ๆ อีก เช่น Lightning Network ขึ้นมาที่จะช่วยให้การทำธุรกรรมทาง Bitcoin มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”

“ก็เหมือนกับช่วงแรกเริ่มที่มีโทรศัพท์มือถือ ราคาในตอนนั้นของมันสูงมากแถมไม่ได้มีฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษและถูกจำกัดไว้เฉพาะกลุ่มคนรวยที่สามารถซื้อมือถือได้ Bitcoin ก็เช่นกัน มันจะถูกพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นและถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในวงกว้างมากยิ่งขึ้นในอนาคต”

ที่มา micky.com.au

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น