ถึงแม้จีนจะปฏิวัติเป็นสังคมไร้เงินสด แต่คริปโตก็ยังคงไม่ได้รับการยอมรับอยู่ดี

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัจจุบันโลกเราเริ่มก้าวเข้าไปสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทางธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (PBoC) เริ่มกังวลว่า ผู้คนอาจจะเลิกใช้เงินสดและหันไปใช้ Bitcoin หรือคริปโตสกุลอื่น ๆ แทน

การใช้เงินสดที่น้อยลงเรื่อย ๆ

อ้างอิงจาก Chepicap ในปัจจุบัน จำนวนของพ่อค้าตามจุดท่องเที่ยวหลัก ๆ ในประเทศจีนนั้นเริ่มหยุดรับเงินสดมากขึ้นเรื่อย ๆ และหันไปพึ่งแอปฯ อย่าง Alipay ของ Aliaba และ WeChat ของ Tencent ในการทำธุรกรรมแทน

PBoC ได้เผยว่า พฤติกรรมดังกล่าวนั้นสร้างปัญหาให้กับเงินหยวน:

“ผู้บริโภคในสถานที่ท่องเที่ยว, ร้านอาหาร และพ่อค้ารายย่อย ได้ทำการปฏิเสธที่จะรับเงินสด ซึ่งอาจส่งผลต่อสถานะทางด้านกฎหมายของเงินหยวนได้ และสิทธิของผู้บริโภคในการเลือกช่องทางในการชำระเงิน”

IDK. Was in major cities in China few months ago and it is basically cashless. Even vending machines you order and pay on your phone. Street vendors look at you oddly when have cash.

It is well beyond the US.

— Gaunerd (@gaunetes) January 2, 2019

ในขณะที่ความนิยมของเงินสดลดลงเรื่อย ๆ แอปฯ เช่น Alipay และ WeChatPay กลับได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ PBoC เลยกังวลว่าอาจจะลุกลามไปจนถึงการใช้งานคริปโตที่เพิ่มขึ้นได้

ยังต่อต้านคริปโตอยู่ดี

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 PBoC เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับข้อดีของการ Decentralized และเคลมว่านวัตกรรม Blockchain นั้นใช้งานไม่ได้จริงและเพ้อฝันเกินไป กับการที่จะเข้ามาแทนที่เงิน Fiat

ในช่วงปี 2017 และ 2018 ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ทำการปราบปรามกวาดล้างคริปโตในหลากหลายรูปแบบเช่นการระงับไม่ให้สามารถเข้าถึงเว็บเทรดได้, การสั่งปิดเว็บเทรด, การแบนไม่ให้ระดมทุน ICO และการแบนไม่ให้เทรดคริปโตเป็นต้น

ถึงแม้พฤติกรรมที่เปลี่ยนจากการใช้เงินสดมาเป็นแบบดิจิทัลแทนนั้นจะเป็นสิ่งที่ทางรัฐบาลสนับสนุน แต่ดูการพวกเขายังคงมีท่าทีแข็งกร้าวต่อการใช้ Bitcoin และคริปโตสกุลอื่น ๆ เป็นช่องทางในการชำระเงินอยู่

ก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยให้เหตุผลที่ต่อต้านคริปโตไปว่า มีความเสี่ยงและการต้มตุ๋นหลอกลวงเยอะ เลยต้องการป้องกันนักงลงทุนในประเทศไม่ให้ข้องเกี่ยวใด ๆ

ในอนาคตไม่แน่ว่า แอปฯ เช่น Alipay และ WeChat Pay อาจสนับสนุนคริปโตก็เป็นได้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นไม่แน่ว่ารัฐบาลจีนอาจถูกบังคับให้ยอมรับคริปโตก็เป็นได้ เพราะเป็นเรื่องยากที่จะต่อต้านกับผู้ใช้งานจำนวนมากนั้น