<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“Amazon จะได้รับประโยชน์จากโซลูชั่นโอนเงินต่างประเทศของเรา” กล่าวโดยหัวหน้าฝ่ายการตลาด Ripple

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในที่ประชุมของ Cornell’s Entrepreneurship Summit ในเมืองนิวยอร์ค นาย Cory Johnson ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับภารกิจของ Ripple เพื่อพัฒนาความเร็วและลดต้นทุนของการชำระเงินข้ามประเทศ เมื่อมีผู้ถามว่าในมุมมองของเขา Ripple ในอีก 20 ปีข้างหน้าจะเป็นเช่นไร นาย Johnson กล่าวว่าเขาเห็นว่าเทคโนโลยีของ Ripple มีบทบาทที่สำคัญในการที่จะช่วยให้บริษัทใหญ่ ๆ ในโลกสามารถโอนเงินและจ่ายค่าจ้างให้พนักงานได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง

“เมื่อเงินจำนวนกว่า $23 ล้านล้านดอลลาร์ต้องรออยู่ในบัญชีสำหรับเงินของต่างประเทศในธนาคารเพื่อรอการ set up ต่าง ๆ  เพราะการถ่ายโอนเงินเป็นไปอย่างช้ามาก

เช่น บริษัท Amazon มีเงินกว่าล้านดอลลาร์ที่รออยู่ในบัญชีเพื่อที่จะนำไปจ่ายเงินให้กับพนักงานที่ใดที่หนึ่งบนโลกหรือจ่ายให้กับกลุ่มผู้ขายกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งบนโลกนี้ เพราะระบบที่ทำการถ่ายโอนเงินมีความล่าช้ามาก

ซึ่งผมได้วิเคราะห์และผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าโลกในอีก 10 ปีข้างหน้าถ้าคุณจ้างคนงานในบังกลาเทศให้มาทำงานกับเราหรือพี่เลี้ยงจากไทยจะส่งเงินจากประเทศญี่ปุ่นกลับไปให้ครอบครัวของพวกเขาได้อย่างไร

ผมจินตนาการไม่ออกว่าในโลกที่เงิน 5 ดอลลาร์ต่อเดือนมันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตคนคนหนึ่งไปมากแค่ไหน

ผมคิดว่าเราอาจจะได้เห็นผู้คนและบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถเข้ามาทำธุรกิจร่วมกันได้ ซึ่งเป็นอะไรที่วิเศษมาก มันไม่ใช่แค่ว่าธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแต่มันหมายถึงธุรกิจจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรในอนาคตซึ่งผมคิดว่ามันจะแตกต่างจากที่เป็นอยู่ในตอนนี้อย่างมาก”

นอกจากนี้นาย Johnson ได้พูดเกี่ยวกับเหรียญ XRP จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการเงินในปัจจุบันอีกด้วย เขากล่าวว่า:

“เทคโนโลยีอย่าง XRP จะช่วยให้การทำธุรกรรมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการโอนเงินข้ามประเทศผ่านทางแพลตฟอร์มข้อความที่เรียกว่า Swift ซึ่ง Swift ถูกสร้างขึ้นมาในปี 1973 เป็นการร่วมมือกันแบบโคโซเทียมระหว่างธนาคารกว่าพันแห่งที่มีพนักงานร่วมกว่าพันคนในเบลเยียม หากต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงบนเครือข่ายของ Swift คุณจะต้องได้รับความยินยอมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในระบบการเงิน

ซึ่งมันก็ยังไม่เคยมีเทคโนโลยีใดเข้ามาแก้ปัญหานี้มาก่อน จนกระทั่งมาถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Ripple ถ้าเกิดไม่มีเทคโนยีของ XRP คุณคงไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินกว่าพัน ๆ ครั้งภายในวินาทีเดียวและเทคโนโลยีนี้นี่แหละที่เข้ามาช่วยให้ต้นทุนมันถูกลง”

ที่มา dailyhodl.com

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น