อ้างอิงจาก Business Insider นาย Ed Tilly CEO, ประธานและผู้บริหารของ CBOE ได้กล่าวว่า การที่ไม่มี ETN สำหรับ Bitcoin นั้นทำให้นักลงทุนระดับสถาบันในย่าน Wall Street ยังไม่สนใจในวงการคริปโต
ETN คือกุญแจของตลาดคริปโต
นาย Tilly กล่าวเกี่ยวกับการเติบโตของ Bitcoin ว่า:
“การเติบโตของ Bitcoin ยังคงถูกจำกัดโดยการไม่มีผลิตภัณฑ์สำหรับนักลงทุนระดับสถาบัน”
เขาได้อธิบายว่า ETN นั้นจะทำให้นักลงทุนทั่วไปสามารถลงทุนในคริปโตได้ง่ายกว่า แตกต่างจาก Bitcoin Futures เนื่องจากสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากกว่า
ETN ย่อมาจาก Exchange-traded Notes มันเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินชนิดหนึ่ง ETN มีความแตกต่างกับ ETF ตรงที่มันเป็นตราสารหนี้ที่จะถูกรองรับโดยผู้ออก ETN เช่น ธนาคาร แทนที่จะอ้างอิงกับราคาของสินทรัพย์โดยตรง ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการลงทุนในคริปโต โดยที่นักลงทุนไม่จำเป็นต้องครอบครอง Cryptocurrency ไว้เอง
อ้างอิงจากนาย Tilly เหตุผลที่ Bitcoin ETF นั้นไม่ได้รับการอนุมัติเสียที เนื่องจากผู้ออกกฎหมายยังคงไม่สามารถป้องกันนักลงทุนจากการควบคุมราคาได้ เขาเลยแนะนำว่า ควรที่จะมี ETN ก่อนที่จะมี ETF จะทำให้เงินไหลเข้ามาในวงการคริปโตได้มากกว่า
ก่อนหน้านี้ นาย Brian Kelly นักลงทุนชื่อดัง ก็ได้กล่าวเช่นกันว่า ในปี 2019 ไม่มีโอกาสเลยที่ Bitcoin ETF นั้นจะได้รับการอนุมัติ รวมทั้งคณะกรรมการ SEC ของสหรัฐฯ เองเคยกล่าวเช่นกันว่า “อย่ารอการอนุมัติของ Bitcoin ETF เลย อาจใช้เวลาเป็นวันหรือปี”
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น ETN หรือ ETF ก็ล้วนแต่ส่งผลดีกับวงการคริปโตทั้งนั้น เนื่องจากนักลงทุนจะสามารถลงทุนได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับเวลาว่า เมื่อไรผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะได้รับการอนุมัติ
ที่มาภาพ Northwestern University
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น