อ้างอิงจาก finextra เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่ามา SWIFT เครือข่ายการเงินยักษ์ใหญ่ของธนาคารทั่วโลกกำลังจะเชื่อมเครือข่าย gpi ของพวกเขาเข้ากับแพลตฟอร์มของ Corda ของบริษัท R3 ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังทำการทดสอบ Proof-of-concept อยู่
SWIFT เริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรม Blockchain แล้ว
ก่อนหน้านี้เอง SWIFT ได้เผยความสนใจของพวกเขาว่า กำลังจะใช้เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภท (DLT) อย่างเช่น Hyperledger เป็นต้น แต่ก็ยังคงไม่ได้เข้ามาในอุตสาหกรรมนี้อย่างเต็มตัว
gpi คือข้อตกลงของระดับการให้บริการระหว่างธนาคารที่จะทำให้มีการติดตามและตรวจสอบข้อมูลในเครือข่ายแบบเต็มที่เพื่อความโปร่งใส ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาโมเดลเก่า ๆ ที่ธนาคารเคยใช้ได้
นาย Gottfried Leibbrandt CEO ของ SWIFT กล่าวในงาน Paris Fintech Forum เกี่ยวกับการร่วมมือว่า:
“แพลตฟอร์ม gpi ใหม่ของเรานั้นสามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นได้และเปิดกว้าง ซึ่งเราได้ทำการเชื่อมไปยังเครือข่ายอื่น ๆ เสมอ เราได้ประกาศว่ากำลังทำ Proof-of-concept กับ Blockchain ของ R3 ในการทำธุรกรรมในแพลตฟอร์มการเทรด และจะเชื่อมไปยัง gpi อีกรอบ เรากำลังพยายามสำรวจวิธีการเชื่อมสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน”
SWIFT ได้ยืนยันการตัดสินใจดังกล่าวว่าไม่ใช่ข่าวลือเท่านั้น ซึ่งคาดว่าแพลตฟอร์มนี้จะถูกนำไปใช้กับ E-commerce และการค้า
ข้อดีของการใช้ gpi Link
ในแนวคิดดังกล่าวนั้น องค์กรต่าง ๆ จะสามารถใช้ Corda ในการอนุญาตธุรกรรมจากธนาคารได้ด้วย gpi Link การทำธุรกรรมด้วย gpi นั้นจะถูกจัดการโดยธนาคารนั้น ๆ ขององค์กรเลย และทำให้ข้อมูลเครดิตจะถูกรายงานกลับไปยังแพลตฟอร์มที่ใช้ค้าด้วย gpi Link
นาย David Rutter CEO ของ R3 ได้กล่าวเกี่ยวกับการร่วมมือครั้งนี้ว่า:
“gpi ของ SWIFT นั้นเริ่มกลายเป็นมาตรฐานใหมในการชำระเงินทั่วโลก แอปฯ Blockchain ใดก็ตามที่ทำงานบน Corda จะได้รับประโยชน์จากการทำธุรกรรมที่เร็ว, ปลอดภัยและโปร่งใส ด้วย gpi ของ SWIFT”
ในส่วนของนาย Luc Meurant CMO ของ SWIFT ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ว่า:
“ถึงแม้จะมีการนำเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทไปใช้งานแล้ว แต่ก็ยังคงมีความต้องการสำหรับการใช้งาน Cryptocurrency ไปใช้ชำระเงินเล็กน้อยเท่านั้น เทียบกับความต้องการที่อยากชำระเป็น Fiat ด้วยการใช้ gpi Link ธนาคารต่าง ๆ จะสามารถให้บริการทำธุรกรรมด้วยความรวดเร็ว และโปร่งใสได้สำหรับแพลตฟอร์ม E-commerce และการซื้อขาย ซึ่งจะยกระดับระบบนิเวศน์ในด้านความเร็ว, ความปลอดภัย, การแพร่หลาย และความโปร่งใสขึ้นไปอีกระดับ”
การที่เครือข่ายยักษ์ใหญ่เช่น SWIFT ตัดสินใจกระโจนเข้ามาเริ่มศึกษา Blockchain แบบจริงจังนั้น อาจจะกลายเป็นการประกาศคู่แข่งกับบริษัทด้าน Blockchain เช่น Ripple ที่มีแผนจะสร้างเครือข่ายสำหรับธนาคารต่าง ๆ ทั่วโลกเช่นกัน ในปี 2019 นี้ เราคงได้เห็นการต่อสู้กันระหว่างยักษ์ใหญ่ทั้งสองอย่างแน่นอน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น