ศาลสูงสุดของนิวยอร์คได้ทำการตัดสินให้เว็บเทรดคริปโตยักษ์ใหญ่ BIfinex และ Tether สามารถให้บริการได้ตามปกติ และได้สั่งให้ Bitfinex และบริษัทลูกผู้สร้าง Stablecoin อย่าง Tether ส่งเอกสารเกี่ยวกับการปล่อยกู้และเครดิตของ Tether ต่อ Bitfinex
คำสั่งผู้พิพากษา
อ้างอิงจากเอกสารที่ตีพิมพ์ไปเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ นาย Joel Cohen ผู้พิพากษาในศาลสูงสุดได้สั่งให้ผู้บริหารและพนักงานของ Bitfinex และ Tether ให้หยุดทำการปล่อยกู้ Tether ที่สำรองไว้ให้ Bitfinex
“ศาลพบว่าคำสั่งเบื้องต้นควรได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อจัดการกับข้อกังวลด้านการบังคับใช้กฎหมายที่ถูกต้องของ OAG โดยไม่รบกวนกิจกรรมทางธุรกิจที่ถูกกฎหมายของผู้ที่โดนสอบสวนโดยไม่จำเป็น”
คลิกที่นี่เพื่อดูคำสั่งของผู้พิพากษา
แต่จากคำสั่งนี้ Tether ยังคงสามารถนำเงินที่สำรองไว้ไปทำการลงทุนได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจของเขา ก่อนหน้านี้ บริษัทดังกล่าวก็กล่าวในศาลว่า พวกเขาได้นำเงินสำรองไปใช้ในการลงทุน แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า พวกเขานำเงินไปลงทุนอะไรกันแน่
ในประกาศจากทาง BItfinex พวกเขาได้ทำการชื่นชมการตัดสินใจของผู้พิพากษาว่า:
“เราเชื่อว่าการตัดสินของศาลในวันนี้ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้ง Tether และ Bitfinex มีสิทธิ์ดำเนินธุรกิจตามปกติแม้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อมีการสั่งห้ามเบื้องต้น”
Bitfinex ยังได้เคลมในประกาศอีกด้วยว่าเป็นชัยชนะของพวกเขา และชี้ว่าการตรวจสอบครั้งนี้ถึงทางตันแล้ว
นอกจากนี้ Bitfinex ยังเผยอีกด้วยว่า NYAG นั้น ‘ไม่ค่อยศรัทธา’ ในตัวพวกเขาเท่าไรนัก และเคยเมินเฉยต่อความพยายามในการร่วมมือของพวกเขาอย่างเต็มใจก่อนหน้านี้อีกด้วย
Bitfinex ได้ทำการสรุปในประกาศว่า:
“เราจะยังคงแก้ต่างอย่างจริงจังจากการกระทำใด ๆ โดยสำนักงานอัยการสูงสุดนิวยอร์กและเรายังคงมุ่งมั่นเช่นเคยเพื่อปกป้องลูกค้า, ธุรกิจ และชุมชนของเราจากการเรียกร้องที่ไม่เหมาะสม”
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่หลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้สำนักงานอัยการสูงสุดนิวยอร์กได้ทำการ Freeze สินทรัพย์ของ Tether และทำการขอเอกสารเกี่ยวกับการที่พวกเขาปล่อยกู้เครดิตมูลค่า 625 และ 900 ล้านดอลลาร์ ให้กับ Bitfinex ซึ่งทำให้เว็บเทรดพบกับสภาพคล่องที่ลำบาก เพราะลูกค้าเองก็ถอนเงินจากเว็บเทรดคริปโตเรื่อย ๆ และพวกเขายังถูก Crypto Capital ผู้ให้บริการชำระเงิน ทำการ Freeze เงินไว้อีก 850 ล้านดอลลาร์ด้วย ทำให้ตอนนี้ Bitfinex ประสบปัญหารอบด้าน ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น