<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ชาวเนเธอร์แลนด์วัย 33 ปีถูกจับกุมข้อหาฉ้อโกงการขุด Bitcoin มูลค่า 2.2 ล้านดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ชาวเนเธอร์แลนด์ อายุ 33 ปีได้ถูกจับกุมในคดีที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงการขุด Bitcoin ที่ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 2.2 ล้านดอลลาร์

หน่วยงานด้านภาษีแห่งเนเธอร์แลนด์ หรือ FIOD ได้ออกมาประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าชายคนดังกล่าวนั้นเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจำนวนสองแห่ง โดยเขาได้ชักชวนให้ผู้คนจำนวน 100 คนมาซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อขุด Bitcoin แต่ภายหลังก็โกงลูกค้าของเขาด้วยการไม่ซื้อมันมาส่ง

โดยชายคนดังกล่าวถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง, ปลอมแปลงเอกสาร และฟอกเงิน นอกจากนี้ทาง FIOD ยังเผยว่าเขายังนำเงินของนักลงทุนไปใช้ซื้อของส่วนตัวอย่างเช่นระหรู, มอเตอร์ไซค์, เที่ยว และเล่นพนันอีกด้วย

ชายผู้นี้ได้เปิดบริษัทเมื่อตอนปี 2017 โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนต่อนักลงทุนประมาณ 0.3 BTC ต่อเดือน (ในตอนนั้น Bitcoin มีมูลค่าอยู่ที่ 2,389 ดอลลาร์) ทว่าเมื่อทางนักลงทุนไม่ได้สามารถได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ และไม่ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกเขาคืน ทำให้ทางนักลงทุนต้องออกมายื่นฟ้อง

เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2018 ที่ผ่านมา ทาง FIOD และตำรวจได้ทำการบุกค้นบ้านของชายผู้นี้ และได้ทำการยึดของกลางอย่างกระเป๋า, รองเท้าหรู และรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้ได้

ทาง FIOD กล่าวว่าการต่อสู้กับการฟอกเงินนั้นถือเป็นสิ่งที่ต้องทำอันดับแรก เนื่องจากว่ามันเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงมาก

ด้วยการที่ราคาของ Bitcoin และ cryptocurrency นั้นเป็นขาลงอย่างรุนแรงเมื่อช่วงปี 2018 จึงอาจส่งผลทำให้ชายคนดังกล่าวไม่สามารถคืนทุนให้กับนักลงทุนตามที่สัญญาไว้ได้ และนี่คือสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำไมพวกเราถึงไม่ควรเชื่อธุรกิจที่มีการสัญญาว่าจะคืนทุนเป็นตัวเลขอย่างชัดเจน เนื่องจากว่ามันไม่มีวันที่จะเป็นจริงได้นั่นเอง

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น