Congressional Research Service (CRS) แห่งสหรัฐอเมริกากล่าว “Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีเป็นเครื่องมือที่เอาไว้ลงทุนเก็งกำไรและไม่ใช่เงิน” ในการวิจัยการใช้เงินสดในสหรัฐอเมริกาในหัวข้อจิจัย “The Potential Decline of Cash Usage and Related Implications” ซึ่งเป็นการวิจัยเกี่ยวกับการใช้เงินสดที่อาจจะลดลงในอนาคตเพราะมีใช้งานบัตรมากขึ้น
นักวิจัยได้วิเคราะห์การชำระเงินในรูปแบบอื่น ๆ รวมถึงคริปโตเคอร์เรนซีด้วยไม่ว่าจะเป็นคริปโตแบบส่วนตัว, สาธารณะหรือออกโดยธนาคารกลาง เช่น Bitcoin
แม้ข้อมูลด้านราคาของ Bitcoin จะดึงดูดความสนใจของสาธารณชนแต่มันก็ชี้วัดไม่ได้ว่าคนนำมันมาเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าบริการมาแค่ไหน
“การวิจัยเผยว่าผู้คนนิยมนำ Bitcoin มาใช้เป็นเครื่องมือการลงทุนมากกว่านำมาแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ”
อย่างไรก็ตามจากการวิเคราะห์ของบริษัทซอฟต์แวร์ DataLight เห็นต่างจาก CRS โดยสิ้นเชิง โดยทาง DataLight เห็นว่า Bitcoin นั้นจะเข้ามาแทนที่เงินสดและการชำระเงินผ่านบัตรทั่วโลก Bitcoin จะกลายมาเป็นกระแสหลักในการชำระสินค้าและบริการ
“ถ้าราคาของ Bitcoin ยังคงอยู่ในระดับนี้ต่อไป รับรองว่าในอนาคตมันจะชนะเครื่องมือทางการเงินทุกอย่างบนโลก”
นอกจากนี้ก็มีผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ได้ออกมาดีเบตเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ Bitcoin จะถูกนำมาใช้เป็นเงินโดยนาย Peter Schiff และก่อนหน้านี้ที่ทาง CRS จะออกรายงานดังกล่าวข้างต้นนาย Brad Sherman วุฒิสมาชิกสภาสหรัฐ ฯ ก็ได้เรียกร้องให้วอชิงตันแบนคริปโตเคอร์เรนซีเพราะกลัวว่ามันจะทำให้อำนาจทางการเมืองของสหรัฐอเมริกาอ่อนด้อยลง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น