นักพัฒนา Bitcoin Core ชื่อดัง Dr. Pieter Wuille และ Greg Msxwell ได้เสนอ Bitcoin Improvement Proposal (BIP) ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดขนาด Bandwidth ของการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Bitcoin
โปรโตคอลดังกล่าวเรียกว่า “Erlay” ซึ่งได้ร่วมมือกันพัฒนากับสถาบันด้านการวิจัย Gleb Naumenko ของมหาวิทยาลัย British Columbia โดยโปรโตคอลนี้จะเข้ามาช่วยลดปริมาณการรับส่งข้อมูลที่จะต้องใช้ในการประมวลผลการทำธุรกรรม Bitcoin ลงมาถึง 75%
ลดปริมาณ Bandwidth การรับส่งข้อมูลในการประมวลผลลง 75%
“หลักการของ Erlay คือโปรโตคอลจะไม่ส่งทุก ๆ ธุรกรรมไปให้กับทุก peer บนเครือข่ายของ Bitcoin แต่จะเลือกส่งไปให้ peer จำนวนหนึ่งแทน (ประมาณ 8)”
นาย Naumenko เป็นอดีตวิศวกรด้านซอฟต์แวร์ที่ Blockstream เค้ากล่าวว่าการนำ BIP มาใช้จะลดปริมาณการรับส่งข้อมูล (Bandwidth) ระหว่างโหนดบนเครือข่าย Blockchain ลงไปกว่าครึ่งหนึ่ง รวมถึงการนำ Erlay มาใช้จะทำให้การเชื่อมต่อทุกอย่างฟรีหมดและทนทานต่อการถูกโจมตีอีกด้วย และเค้ายังกล่าวอีกว่าหาก outbound peer บน Blockchain ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นมาเป็น 32 ตัว Erlay จะลดปริมาณ Bandwidth ลงกว่า 75% เมื่อเทียบกับตัวโปรโตคอลที่ใช้อยู่ตอนนี้ และการนำ BIP มาใช้ยังช่วยให้มีการเชื่อมต่อโหนดระหว่างกันบนเครือข่าย Bitcoin มากขึ้น
ทำให้ Bitcoin ถูกโจมตียากขึ้น
ในตอนนี้ความปลอดภัยของ Bitcoin Blockchain นั้นขึ้นอยู่กับโหนดที่เข้ามาร่วมบนเครือข่าย ซึ่งโปรโตคอล Erlay จะมีประโยชน์ในด้านนี้โดยตรงเพราะมันจะช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อโหนดแพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้การโจมตียากขึ้นไปอีก
“ตัวอย่างเช่น การโจมตีแบบ Eclipse เมื่อโหนดเป้าหมายถูกแยกออกจาก Chain ที่ยาวสุด ในกรณีนี้ผู้โจมตีสามารถทำให้โหนดเป้าหมายเชื่อว่าพวกเขาจ่ายโหนดเป้าหมายนั้น โดยแสดง Chain ที่สั้นกว่าให้ดูว่ามีการทำธุรกรรมอยู่จริง แต่อันที่จริงแล้วกลับไม่ได้ส่งธุรกรรมไปยัง Chain ที่ยาวที่สุด”
ส่วนการที่จะนำ BIP ไปใช้กับโค้ดของ Bitcoin Core เมื่อไรนั้นนาย Naumenko กล่าวว่าก็กำลังพูดคุยประเด็นนี้กับนักพัฒนาคนอื่น ๆ อยู่เช่นกัน ซึ่งกระแสตอบรับก็เป็นบวกเกือบทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามชุมชนของ BTC ก็เห็นว่ามันควรที่จะมีตัวทดลองนำ Erlay มาใช้กับโค้ดของ Bitcoin ก่อนนำไปใช้จริง ๆ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น