เนื่องด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้นและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นของ Bitcoin รวมทั้งการมาถึงของนักลงทุนสถาบันหลายแห่งทำให้ทุกอย่างที่กล่าวมานั้นมีผลต่อความผันผวนและการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตและการ Correction
ธรรมชาติของชุมชน Bitcoin กำลังจะเปลี่ยนไป
นาย Aaron Brown ผู้เขียนวิเคราะห์บทความที่ตีพิมพ์ลงบน Bloomberg มีความเชื่อว่าในครั้งต่อไปที่ราคาของ Bitcoin มีการปรับราคาที่มากขึ้นมันจะเป็นการเพิ่มที่ยั่งยืนกว่าครั้งที่ผ่านมาเพราะด้วยเหตุผลที่ว่าการขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความ FOMO อีกต่อไปแต่มากจากปัจจัยพื้นฐานของ Bitcoin และเหตุการณ์ทางการเงินทั่วโลกที่มาสนับสนุนให้ราคาของมันสามารถปรับตัวขึ้นไปได้นั้นเอง
นาย Brown ยังได้กล่าวอีกว่าการเปลี่ยนแปลงราคาทั้งขึ้นและลงของตลาดคริปโตเคอเรนซี่จะไม่เกิดขึ้นแบบปุ๊ปัปหรือทันทีทันใดอีกต่อไปและในอนาคตตลาด Bitcoin จะกลับมาเป็นตลาดกระทิงขาขึ้นอีกครั้งโดย Bitcoin จะมีราคาขึ้นไปอยู่ที่ 60,000 ดอลลาร์ ถึง 400,000 ดอลาร์ก่อนที่จะลดลงอย่างรวดเร็วในที่สุด
แต่ Brown ได้มีการออกมาโต้แย้งว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดด 2 ครั้งล่าสุดในปี 2013 และ 2017 นั้นเป็นเพียงแค่นักลงทุนรายย่อยเท่านั้นที่ทำให้ราคาขึ้นแต่ทว่าในปี 2019 หรือก็คือปัจจุบันนี้ตลาดมีความแตกต่างออกไปโดยสังเกตได้จากการที่ตลาดคริปโคมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นจากแต่ก่อนในปี 2013 (1พันล้านดอลาร์) และ 2015 (3 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วเป็น 260,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2019 ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเป็นอย่างมาก
นอกเหนือไปจากนี้แล้วในปัจจุบันนี้นักลงทุนคริปโตเคอเรนซี่เองยีงมีนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่มากขึ้นและในปี 2018 มีมากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ที่มาจากสถาบันการเงินและลงทุนในการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ ๆ
มากไปกว่านั้นยังมีสถาบันดัง ๆ ที่เข้ามาลงทุนใน Bitcoin และให้ความสนใจกับคริปโตเคอเรนซี่มากขึ้นเช่น Facebook, Goldman Sachs, JPMorgan Chase และ Fidelity investing ซึ่งยังมีการประเมิณอีกว่าในปี 2019 จะมีเข้ามาเรื่อย ๆ
จากที่ Brown กล่าวมาข้างต้นนั้นเขาได้เตือนอีกว่าถึงแม้ภายนอกจะเห็นว่าตลาดคริปโตเคอเรนซี่นั้นดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ทว่าก็ยังไม่ละทิ้งความเป็นไปได้อีกหนึ่งทางและเตือนทุกคนว่าก็ยังมีความเป็นไปได้ที่นี้อาจจะเป็นปัญหาฟองสบู่และนำความผิดพลาดมาในอนาคต แต่เนื่องจากว่าตลาดได้เติบโตเต็มที่เลยพอให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าหากเกิดขึ้นจริงนั้นอาจจะทำให้เกิดการ Correction ที่ 20 เปอร์เซ็นต์หรือแย่กว่านั้นก็คือ 85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดกระทิงของ Bitcoin ได้สิ้นสุดลงไปหนึ่งรอบ
Bitcoin จากข้อมูลเชิงลึก
เมื่อมองลงไปที่ข้อมูลเชิงลึกของ Bitcoin เราจะพอเห็นได้และคาดการณ์ไปในอนาคตได้ว่าการกระทำของ Bitcoin ในตอนนี้ที่ราคาอยู่ที่ 8,602 ดอลลาร์ และอยู่ในช่วงราคาดังกล่าวอาจจะแตกต่างกันเมื่ออยู่ในปี 2019 ซึ่งในปี 2017 นั้นมีสัญญาซื้อขาย Bitcoin ที่ผันผวนเป็นอย่างมากกว่า 300 เปอร์เซ็นต์และนักลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสเพียงแค่ 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ราคา Bitcoin จะสามารถขึ้นไปสูงกว่า 10,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ
โดยจากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นปัจจุบัน Bitcoin ได้กลับมาที่ราคาเดียวกับเมื่อช่วงตอนปี 2017 ที่ผ่านมาและมีสัญญาซื้อขายที่ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนั้นหมายความว่ามีโอกาสเพียงแค่ 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ Bitcoin จะสามารถขึ้นไปยืนเหนือ 10,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ
ดังนั้นหาก Bitcoin จะขึ้นไปยืนเหนือ 10,000 ได้คาดว่าราคาก็คงไปไม่เกิน 11,000 ในตอนนี้และหากไม่เป็นดังที่หวังไว้ราคาของ Bitcoin คาดว่าจะตกลงมาอยู่ที่ประมาณ 7,500 ดอลลาร์แทแม้ว่านี่เป็นการเดิมพันที่มีความเสี่ยง แต่ก็มีค่าเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่นักลงทุนทำในปี 2017 นั้นเอง
ปัจจับที่เกี่ยวข้องกับตลาด
ในตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin กับดัชนี S&P 500 เป็นอีกหนึ่งในสัญญาที่พอจะให้คำแนะนำการเกิดขึ้นของราคาในปี 2019 ได้ เมื่อสหสัมพันธ์ใกล้เคียงกับ 0 ในไตรมาสที่จะถึงนี้ ทำให้แนวโนมของ Bitcoin ที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าค่าโดยเฉลี่ยในไตรมาสต่อไปแต่ความผันผวนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
ในทางตรงการข้ามเมื่อ Bitcoin ตอบสนองต่อปัจจัยพื้นฐานของตลาดโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ผลตอบแทนจะทำให้อัตราค่าเฉลี่ยในการได้รับผลตอบแทนมีแนวโน้มที่จะลดลงหรือเป็นลบ
ดังที่แสดงไว้ในแผนภูมิข้างต้นกับความสัมพันธ์ในปัจจุบันของ Bitcoin กับ S&P 500 อยู่ใกล้กันที่ -0.2 และนี้เป็นพื้นที่ซึ่งมีความผันผวนยังไม่สูงเมื่อเทียบกับในอดีต โดยนาย Brown ได้ชี้ให้เห็นว่าตั้งแต่กลางปี 2018 ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin กับ S&P 500 นั้นอยู่ใกล้เคียงกับศูนย์เป็นระยะเวลาร่วมกว่า 3 เดือนในช่อง 2 – 3 เดือนแรกเมื่อต้นปี 2019 ที่ผ่านมาและใกล้เคียงกับเมื่อตอน เดือนกันยายน 2017 ถึงมกราคม 2018
จากข้อมูลของ Brown ข้างต้นจะพบว่า Bitcoin ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยยะกับตลาด S&P 500 และการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin ที่รุนแรงก็มีแนวโน้มมาจากการที่ค่าสหสัมพันธ์ของทั้ง 2 ตลาดเข้าใกล้ 0 นั้นเอง
ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานี้บราวน์เชื่อว่าวงจรที่กำลังจะเกิดขึ้นอาจแตกต่างกันและเขาคาดว่าราคาในช่วงฤดูร้อนจะตอบสนองต่อข่าวที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานของตลาดแทนที่จะเป็นการ FOMO เหมือนแต่ก่อนอย่างแน่นอน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น