<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์ชี้ ราคาขาขึ้นราคา Bitcoin ในขณะนี้ยังไม่มีนักลงทุนรายย่อยมากพอ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในวันที่ 18 มิถุนายน ทาง Chicago Mercantile Exchange (CME) กล่าวว่าตอนนี้สถาบันต่าง ๆ มีความสนใจใน Bitcoin Futures มากขึ้นโดยวอลลุ่มเทรดในวันที่ 17 มิ.ย. มีการเทรดฟิวเจอร์ Bitcoin ถึง 26,555 BTC หรือ 5,311 สัญญา มูลค่ารวมกว่า 246 ล้านดอลลาร์ โดยทาง CME กล่าวว่า:

“วอลลุ่มเทรด Bitcoin Future กับทาง CME ของสถาบันต่าง ๆ มีเพิ่มมากขึ้น คือในตอนนี้มีข้อมูลมาว่าการเทรดฟิวเจอร์เพิ่มขึ้นมา 643 สัญญาแล้วภายในวันเดียว จนในวันที่ 17 มิถุนายนมีข้อมูลว่ามีสัญญาเทรดฟิวเจอร์มากถึง 5,311 สัญญา”

นักลงทุนรายย่อยมีส่วนผลักดันราคา Bitcoin

นาย Alex Kruger นักเทรดและนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าในช่วงนี้ที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้น มันแสดงให้เห็นว่ามีการซื้อแบบตั้งค่าระบบไว้มากขึ้น โดยใช้กลยุทธแบบซื้อ Bitcoin วอลลุ่มมาก ๆ 

ในช่วงปี 2017 เรียกได้ว่ามี FOMO มากที่สุด นักลงทุนต่างค้นข้อมูลเกี่ยวกับ Bitcoin ใน Google เมื่อราคามันไปพุ่งแตะถึง 20,000 ดอลลาร์ รวมถึงนักลงทุนรายย่อยก็หาข้อมูลเกี่ยวกับ Bitcoin ทำให้เทรนด์ยอดฮิตในตอนนั้นคือการค้นหาข้อมูล Bitcoin บน Google ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็สันนิษฐานว่าการที่ราคา Bitcoin มันพุ่งสูงขนาดนั้นก็อาจเป็นเพราะมีรายการค้นหาคำว่า Bitcoin บน Google เป็นจำนวนมากด้วย จากการศึกษาของ Willy Woo ในปี 2017 กล่าวว่าเทรนด์การค้นหาใน Google สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสำรวจการซื้อด้วย และเอามาวิเคราะห์ได้ด้วยว่าช่วงเวลาไหนที่ไม่ควรจะเข้าซื้อและช่วงเวลาไหนคือช่วงที่ดีที่สุดในการขาย เช่น ถ้าการเสิร์ชมันน้อย มันก็คือช่วงเวลาที่ควรเข้าซื้อ 

ราคา Bitcoin กับการเสิร์ช Google มีความสัมพันธ์กัน

ถ้ามีการเสิร์ชเกี่ยวกับ Bitcoin มาก ๆ มันเป็นไปได้ว่าราคา BTC อาจจะเฟ้อและจะดึงตัวกลับลงมา จากข้อมูล SEMrush ก็ยืนยันว่าการค้นหาบน Google กับราคา Bitcoin นั้นมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งจากข้อมูลของ SWO เผยว่าในช่วงตลาดขาขึ้นปี 2017 นั้นมีการเสิร์ชคำว่า Bitcoin มากกว่า 1,258 เปอร์เซ็นต์ มีการเสริชเกี่ยวกับ Bitcoin มากกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐกว่า 17 เท่า

แพลตฟอร์ม SEO เผยว่าราคาของ Bitcoin นั้นมีความสัมพันธ์กับการเสิร์ช Google อย่างไรก็ตามในช่วงนี้แม้ Bitcoin จะราคาขึ้นก็ตามแต่ก็มีการเสิร์ชเกี่ยวกับ Bitcoin บน Google น้อยกว่าในปี 2017 ถึง 10 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยอาจจะยังไม่ FOMO แล้วรีบพุ่งเข้ามาในตลาดมากขนาดนั้น แล้วถ้าหากนักลงทุนรายย่อยเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้นเมื่อไหร่เป็นไปได้ว่าราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน

ส่วนทาง JP Morgan Chase ก็เผยว่าการลงทุนใน BTC นั้นเปลี่ยนแปลงไปเพราะมีนักลงทุนสถาบันเข้ามาในตลาดมากขึ้น นาย Nikolaos Panigirtzoglou กรรมการผู้จัดการของ global market strategy ได้กล่าวว่า:

“วอลลุ่มเทรดที่เพิ่มมากขึ้นรวมถึงสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ของ Bitcoin ที่มีเพิ่มมากขึ้นแสดงให้เห็นว่าโครงสร้างของตลาดได้เปลี่ยนไปอย่างมากนับแต่ในปี 2017 เพราะอิทธิพลของนักลงทุนสถาบันที่เข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง”

ที่มา ethereumworldnews

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น