กรมสรรพกรของนิวซีแลนด์ได้เผยกฏหมายใหม่ โดยกำหนดว่ารายได้ที่มาจากสกุลเงินดิจิทัลนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายและพวกเขาได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการชำระภาษีที่ถูกต้อง
ในแถลงการณ์ข้อมูลภาษีซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม กรมสรรพากรของนิวซีแลนด์ได้สรุปบทบัญญัติของการพิจารณาคดีสาธารณะภายใต้มาตรา 91D ตามพระราชบัญญัติการบริหารภาษีของประเทศปี 1994 ดังต่อไปนี้
ผู้ที่มีรายได้จากคริปโตทุกคนจะต้องถูกหักภาษี
กรมสรรพกรได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อปฏิบัติในด้านภาษี โดยกำหนดว่ารายได้ของสินทรัพย์คริปโตที่ได้รับมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของเงินเดือนปกติ จะต้องได้รับการแก้ไขตามจำนวนเงินที่ได้กำหนดไว้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นมันมีผลบังคับใช้เฉพาะกับผู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับตัวของผู้เสียภาษี มันครอบคลุมไปถึงค่าตอบแทนสำหรับงานบริการ , โบนัส , ค่าคอมมิชชั่นและเงินบำเหน็จ
สำหรับการได้รับเงินเดือนเป็นคริปโตนั้นถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ต้องเสียภาษี โดยกฏหมายว่าด้วยสินทรัพย์คริปโตที่จ่ายให้กับพนักงานจะต้องไม่อยู่ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนของราคาและจะต้องแปลงมาเป็นสกุลเงิน Fiat โดยตรง :
“ ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันสินทรัพย์คริปโตนั้นมันยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสินทรัพย์ที่ใช้สำหรับชำระค่าสินค้าและบริการ โดยมุมมองของกรรมาธิการมันก็คือสินทรัพย์คริปโตที่ยังไม่สามารถแปลงมูลค่าไปเป็นสกุลเงิน fiat ได้โดยตรงจากกระดานแลกเปลี่ยน มันจึงยังไม่เพียงพอที่จะเรียกว่ามันเป็นเงินเดือนหรือค่าแรง ”
สินทรัพย์ที่มีลักษณะคล้ายเงินได้รับการนิยามให้เป็นระบบการชำระเงินแบบ peer-to-peer แทนที่จะถูกเรียกว่าเป็นสินทรัพย์ ซึ่งมันมีลักษณะเดียวกันกับบัตรกำนัล , หุ้น หรือ ตราสารหนี้
ดังนั้นสำหรับเงินค่าจ้างที่ต้องเสียภาษีหน่วยงานสรรพากรเล็งเห็นว่าจุดประสงค์ที่สำคัญของสินทรัพย์คริปโตก็คือการตรึงมูลค่าของมันไว้กับสกุลเงิน fiat อย่างน้อยหนึ่งสกุลเงิน (หรือมากกว่า)
มีความรัดกุมมากขึ้น
ตามรายงานระบุว่าหน่วยงานด้านภาษีและฝ่ายนิติบัญญัติทั่วโลกจะหันมาสนใจคริปโตเคอเรนซี่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทคริปโตแห่งหนึ่งได้อ้างว่าเจ้าหน้าที่สรรพากรแห่งสหราชอาณาจักรได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวลูกค้าของพวกเขาและการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกระดานแลกเปลี่ยนคริปโต เพื่อใช้ในการตรวจสอบผู้ที่พยายามจะหลีกเลี่ยงภาษี
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น