เราควรกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างของ Bitcoin หรือไม่ ? หลายคนในทวีตเตอร์ไม่เห็นด้วยกับผลสำรวจนี้ เนื่องจากมันบ่งชี้ให้เห็นว่าการกระจายตัวของ Bitcoin บางทีอาจมีการเหลื่อมล้ำกัน
ความไม่เท่าเทียมกันของ Bitcoin
ตามข้อมูลของนักวิเคราะห์คริปโต Preethi Kasireddy หรือบัญชีในทวีตเตอร์@iam_preethi พบว่ามี Address BTC ประมาณ 0.21% ที่ได้ครอบครอง 55.69% ของ Bitcoin ทั้งหมด , Address BTC ประมาณ 2.03% ที่ได้ครอบครอง 80.46% ของ Bitcoin ทั้งหมด และ Address BTC กว่า 10.03% ที่เป็นเจ้าของ 89.29% ของ Bitcoin ทั้งหมด
Bitcoin wealth distribution: 2% of addresses control 80% of the wealth.
Ouch. pic.twitter.com/MtNe3nKf5K
— Preethi Kasireddy (@iam_preethi) August 13, 2019
มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันในเรื่องนี้ โดยบางคนบอกว่ามันไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่น้อย Vinny Lingham (@VinnyLingham) ซีอีโอของ blockchain ID problem Civic (CVC) เชื่อว่าความไม่เท่าเทียมกันดังกล่าวมันไม่ได้ตายตัว คนอื่น ๆ เช่น Dan Hedl ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Kraken เชื่อว่าข้อมูลออนไลน์ไม่สามารถแสดงการกระจายตัวของ Bitcoin ได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ผู้ใช้รายหนึ่ง (@girevik_) ได้ชี้ให้เห็นว่า Bitcoin Address จำนวนมากยังคงเกินเกณฑ์ที่กำหนด ตัวชี้วัดนี้ดูเหมือนจะบ่งบอกว่าจำนวน Address ที่ครองครอง BTC มูลค่ามากกว่า 200 ดอลลาร์นั้นยังคงอยู่ที่ระดับสูงที่สุดตลอดกาล
This is widely skewed because of dust attacks that created many low-value balances early in Bitcoin’s history. Much better to only look at addresses above a certain threshold, e.g. https://t.co/alYANHCRM2
— girevik (@girevik_) August 13, 2019
เรื่องนี้มันสำคัญหรือไม่
บ่อยครั้งผู้ที่อยู่ในวงการคริปโตเคอเรนซี่ชอบวิจารณ์โปรเจคที่มีความไม่เท่าเทียมกันในการแจกจ่ายโทเค็น ตัวอย่างเช่นมีการกล่าวหากันว่ามี Address EOS อยู่ประมาณ 1.6% ที่ได้ถือครอง 90% ของ EOS ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง มันก็มักจะถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อถกเถียงเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมของ EOS ในระยะสั้นและมักถูกนำมาใช้เพื่อทำลายคริปโตเคอเรนซี่
แต่เมื่อพูดถึงคริปโตเคอเรนซี่ที่เป็น proof-of-work มักไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าไหร่นัก เนื่องจากมันไปเกี่ยวข้องกับการคำนวณ แต่อย่างไรก็ตามจำนวนเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการขุดก็มีส่วนทำให้ความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณขุด Bitcoin ในช่วงแรกด้วยคอมพิวเตอร์ที่บ้าน คุณก็จะโชคดีมี btc เยอะกว่าคนอื่นในตอนนี้
บางคนอาจบอกว่าการมีผู้ถือครองมากขึ้นเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะหากพวกเขาไม่ขาย การหมุนเวียนของ Bitcoin ที่น้อยลงย่อมนำไปสู่แรงราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่ใคร ๆ ก็สามารถสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการเป็นเจ้าของเพียงแค่ 1% ของซัพพลายที่หมุนเวียนในระบบสามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคา ถึงแม้จะเป็นการขายเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ก็ตาม
ดังนั้นความไม่เท่าเทียมกันมีความสำคัญหรือไม่? เนื่องจาก Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์รุ่นใหม่จึงไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนักในระยะสั้น อย่างไรก็ตามผลกระทบของความไม่เท่าเทียมในวงการคริปโตเคอเรนซี่ยังเป็นเรื่องที่ไม่ชัดเจนและมันอาจมีผลกระทบรุนแรงตามมาในอนาคต
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น