<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา Bitcoin ติดลบรายเดือนเป็นครั้งที่สามของปี 2019 แล้ว อนาคตตลาดจะเป็นอย่างไรต่อไป?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่ Bitcoin (BTC) คริปโตอันดับ 1 ในตลาดมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายเดือนติดต่อกัน ดูเหมือนในเดือนนี้มันจะเริ่มแผ่วและอาจจะกลับเป็นขาลงแล้ว เพราะในขณะที่รายงานอยู่นี้ มันมีราคาอยู่ที่ระดับ 9,600 ดอลลาร์ คิดเป็นการลดลงประมาณ 4.8 เปอร์เซ็นต์เทียบกับราคา 10,096 ดอลลาร์ของเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม

ถ้าเกิดราคาของ Bitcoin ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 10,096 อยู่จนหมดเดือนนี้ มันจะกลายเป็นครั้งที่ 3 ในปี 2019 ที่มีการติดลบรายเดือนเกิดขึ้น (ราคาต้นเดือนมากกว่าราคาสิ้นเดือน) ก่อนหน้านี้ ในเดือนมกราคม และกรกฎาคมที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ลดลงมา 7.59 เปอร์เซ็นต์ และ 6.27 เปอร์เซ็นต์เช่นกันในรอบเดือน ดูได้จากกราฟด้านล่างที่สรุปภาพรวมรายเดือนคร่าว ๆ

อย่างไรก็ตาม มันยังคงเหลือเวลาอีกหลายสิบชั่วโมงถึงจะหมดเดือนนี้เท่ากับว่า Bitcoin ยังคงมีโอกาสกลับตัวได้อยู่ และปัจจุบัน ราคาของมันห่างกับราคาเมื่อตอนต้นเดือนประมาณ 600 ดอลลาร์เท่านั้น (ราคาต้นเดือน 10,096 ดอลลาร์)

ในอดีต Bitcoin เคยมีการผันผวนของราคาในระดับ 1,000 ดอลลาร์มาแล้วในช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาที ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้นจาก 9,300 ดอลลาร์ เป็น 10,400 ดอลลาร์ ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เหล่านักลงทุนคริปโตก็ยังคงมีหวังอยู่ว่าในอีกไม่กี่สิบชั่วโมงนี้ราคาของมันจะทะยานกลับไปขึ้นยืนเหนือ 10,096 ดอลลาร์ได้ และถ้ามันทำได้จะกลายเป็นอีกเดือนที่กลายเป็นบวก

อีกจุดที่น่าคิดคือ ในการวิเคราะห์กราฟเชิงเทคนิคนั้นชี้ว่า ตอนนี้นักขายในตลาดกำลังควบคุมทิศทางอยู่และก็มีโอกาสสุงมากที่เดือนนี้จะปิดด้วยการติดลบรายเดือน

กราฟราย 3 วันและรายชั่วโมง

จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่ากราฟราย 3 วัน (ด้านซ้าย) นั้นอาจกำลังทำทรงสามเหลี่ยมที่ราคาเริ่มบีบตัวเข้าไปเรื่อย ๆ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าอาจกำลังเกิดการเปลี่ยนเทรนด์จากกระทิงเป็นหมี

ค่า RSI (Relative Strength Index) ของกราฟราย 3 วันนั้นก็ลดลงไปต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรกนับจากกลางเดือนมีนาคม และเมื่อใดก็ตามที่ค่านั้นต่ำกว่า 50 มันก็เป็นการบ่งบอกว่าตลาดกำลังเป็นตลาดหมี

ในส่วนของ Chaikin Money Flow นั้นเป็นตัวที่จะรวมราคาและปริมาณการเทรดเข้าด้วยกัน ซึ่งพบว่าอยู่ในระดับ 0 ที่เป็นสัญญาณว่าตอนนี้มีแรงเทขายเป็นหลักในตลาด

ดูจากค่าของตัวชี้วัดต่าง ๆ แล้ว ทิศทางที่ Bitcoin กำลังจะมุ่งหน้าไปนั้นมีโอกาสลงมากกว่าขึ้นสูงมาก ซึ่งหากมันร่วงลงต่อไป อาจจะไปหยุดในระดับ 9,000 ดอลลาร์ในอีก 24 ชั่วโมงที่จะถึงนี้ และการร่วงลงขนาดนั้นจะลงไปทดสอบแนวรับ 50 MA (Moving Average) ที่อยู่ในระดับประมาณ 8,738 ดอลลาร์ด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนการร่วงลงไปแตะระดับ 9,000 ดอลลาร์นี้ อาจมีการเด้งสวนขึ้นมาบ้างเพื่อทดสอบแนวรับเก่าที่ระดับ 9,755 ดอลลาร์ (จุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา) เพราะตอนนี้ RSI ในกราฟรายชั่วโมง (ด้านขวา) ได้ชี้ว่ามันอยู่ในระดับมากกว่า 50 ซึ่งเป็นตัวที่บ่งบอกว่ากำลังจะเป็นกระทิง

ถึงแม้ RSI รายชั่วโมงจะบอกว่ามันเป็นตลาดกระทิง แต่การที่มันอยู่ใต้เส้น MA 50 ชั่วโมง, MA 100 ชั่วโมง และ MA 200 ชั่วโมง ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเป็นตลาดหมีเช่นกัน เพราะฉะนั้นการที่จะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 9,932 ดอลลาร์ และ 10,048 ดอลลาร์นั้นเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรเพราะแนวต้านหนาแน่นมาก

กราฟรายเดือน

สำหรับกราฟที่ภาพใหญ่กว่าหน่อยเป็นรายเดือน จะพบว่า Bitcoin ทำทรง “Inside Bar” ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจากจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของเดือนนั้น (13,200 ดอลลาร์ และ 9,049 ดอลลาร์) อยู่ในช่วงการเทรดของเดือนมิถุนายน (13,880 ดอลลาร์ และ 7,432 ดอลลาร์)

เมื่อกราฟทำทรง Inside Bar นั้น มันจะเป็นตัวบ่งบอกว่า ราคากำลังจะบีบตัวที่ทำให้เกิด Higher Lows (จุดต่ำสุดที่สูงขึ้น) และ Lower Highs (จุดสูงสุดที่ต่ำลง) หรือเป็นการบ่งบอกว่าตลาดนั้นยังตัดสินใจเลือกทิศทางไม่ได้ และกำลังบีบตัว (Consolidating) นั่นเอง

และเมื่อใดก็ตามที่เกิดการทะลุลงจุดต่ำสุดของ Insidebar มันจะเป็นตัวที่ชี้ว่าเทรนด์ของตลาดได้กลายเป็นตลาดหมีอีกครั้งแล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง หากราคาร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ 9,049 ดอลลาร์ ที่เป็นจุดต่ำสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มันจะเป็นตัวที่บ่งบอกว่า ตลาดกลายเป็นตลาดหมี และมีโอกาสที่จะร่วงลงต่ำกว่า MA 200 ที่ระดับ 7,468 ดอลลาร์เช่นกัน

ตลาดคริปโตเป็นตลาดที่ผันผวน อะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นนักลงทุนควรมีแผนรองรับในทุกสถานการณ์ไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง และที่สำคัญให้จัดสันปันส่วนเงินที่ใช้ในการลงทุนให้ดีเพราะมีความสำคัญพอ ๆ กับสัญญาณเข้าซื้อหรือขายเลยทีเดียว

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น