เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าขโมยเงินมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ผ่านการโจมตีทางไซเบอร์ของธนาคารและกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล โดยพวกเขากล่าวหาสหรัฐว่าเป็นตัวการแพร่กระจายข่าวลือนี้ออกมา
ตามรายงานจากองค์การสหประชาชาติเมื่อเดือนที่แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เกาหลีเหนือใช้การโจมตีทางไซเบอร์ที่ “แพร่หลายและมีความซับซ้อนมากขึ้น” เพื่อขโมยเงินจากธนาคารและกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งมีมูลค่าถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
“สหรัฐฯและกองกำลังที่ไม่เป็นมิตรอื่น ๆ กำลังแพร่กระจายข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับเรา” สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานโดยอ้างข้อความจากโฆษกของคณะกรรมการประสานงานแห่งชาติของเกาหลีเหนือเพื่อต่อต้านการฟอกเงินและการตอบโต้ทางการเงินของการก่อการร้าย
“ ข่าวลือที่สร้างขึ้นโดยกองกำลังที่เป็นศัตรูนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเกมที่น่ารังเกียจ , มุ่งเน้นทำลายภาพลักษณ์ของสาธารณรัฐของเรา , หาเหตุผลเพื่อการคว่ำบาตรและมาตรการใหม่ ๆ สำหรับการกดดันประเทศ”
วอชิงตันมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในการทำให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ แม้จะมีการประชุมร่วมกันถึงสามครั้งระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐและผู้นำเกาหลีเหนือคิมจองอึน
รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือได้กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ความหวังสำหรับการเจรจากับวอชิงตันกำลังจะจางหายไป นอกจากนี้ Mike Pompeo ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ความเห็นล่าสุดว่านี่เป็น “พฤติกรรมการหลอกหลวงของเกาหลีเหนือ”
เปียงยางถูกกล่าวหาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการโจมตีทางออนไลน์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนเครือข่ายทางการเงินของสหรัฐอเมริกา , เกาหลีใต้และประเทศอื่น ๆ อีกเกือบโหล โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ากิจกรรมทางไซเบอร์เหล่านี้จะสร้างสกุลเงินของรัฐบาลให้แข็งแกร่งมากขึ้นสำหรับระบอบการปกครอง
ประเด็นหลัก ๆ ของการกล่าวหาเกาหลีเหนือในกรณีนี้ก็คือ การเชื่อมต่อกับกลุ่มแฮ็กเกอร์ชื่อดังอย่าง Lazarus ซึ่งเชื่อมโยงกับการโจมตีบนโลกไซเบอร์ที่มีมูลค่ากว่า 81 ล้านดอลลาร์ผ่านทางธนาคารกลางของบังคลาเทศในปี 2016 และการโจมตีสตูดิโอฮอลลีวูดของ Sony ในปี 2014
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น