<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ถูกจับกุมและตั้งข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์สินเป็น Cryptocurrency

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สำหรับวงการคริปโตที่ยังมีกฎหมายมารองรับไม่มากนัก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามากอบโกยผลประโยชน์อยู่มากมายไม่ว่าจะในรูปแบบของการหลอกลวง, ต้มตุ๋น หรือแชร์ลูกโซ่ก็ตาม

ล่าสุด มีสตาร์ทอัปคริปโตแห่งหนึ่งในซีแอตเทิล รายงานว่า พวกเขาเคยโดนขู่เรียกค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 8.75 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 266.74 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่ทำตาม มิจฉาชีพขู่ว่าจะทำการ ‘ทำลายบริษัทให้สิ้นซาก’

นาย Steven Nerayoff ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้าย ซึ่งเขาเป็นที่ปรึกษาของบริษัทแห่งนี้ โดยมีหน้าที่ในการสร้าง Partner และดึงดูดนักลงทุนให้ได้ เขาเข้าร่วมกับบริษัทนี้เนื่องจากมีข้อตกลงว่าจะได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ แต่อ้างอิงจากรายงานดูเหมือนเขาจะเรียกร้องเงินมากกว่าที่ควรจะได้รับ

เหตุการณ์อันวุ่นวายในวงการคริปโต

อ้างอิงจากรายงานของ Seattle Times นาย Steven Nerayoff เป็นผู้ประกอบการและผู้สนับสนุนคนแรก ๆ ในวงการคริปโต และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Ethereum โดยในปี 2017 เขาได้ตกลงช่วยสตาร์ทอัปแห่งหนึ่งในซีแอตเทิล โดยในเอกสารไม่ได้ระบุชื่อบริษัท แต่ใช้นามสมมุติว่า ‘Company 1’

นาย Nerrayoff ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้เขียน Whitepaper และสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับบริษัท และเขาจะได้รับผลตอบแทนเป็น 22.5 เปอร์เซ็นต์ของทั้งโทเค็นที่สร้างโดยบริษัทและเงินที่สามารถหามาระดมทุนได้

บริษัทดังกล่าวได้รับเงินระดมทุนในรอบ Seed Funding มาจำนวน 16 ล้านดอลลาร์ ทำให้นาย Nerayoff ได้รับส่วนแบ่งไป 3.7 ล้านดอลลาร์สำหรับงานของเขาตามตกลง แต่ในรายงานได้ระบุว่า นาย Nerayoff ต้องการเงินจำนวนครึ่งหนึ่งที่ระดมทุนมาได้ ซึ่งเป็นเงิน 8.75 ล้านดอลลาร์ และได้ทำการข่มขู่ว่า ถ้าไม่ทำตามจะ ‘ทำลายการระดมทุน’ ด้วยการสร้างกระแสแง่ลบ และใช้เส้นสายของเขากับผู้มีอิทธิพลในการ ‘ทำลาย’ บริษัท และในตอนนั้น บริษัทดังกล่าวก็ได้จ่าย ETH ไปให้นาย Nerayoff แล้วกว่า 3.78 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 115.23 ล้านบาท)

ในเวลาต่อมา นาย Nerayoff ได้ทำการเรียกร้องเพิ่ม ในช่วงที่ตลาดคริปโตร่วงหนักในปี 2018 เขาได้ทำการบอกให้บริษัทจ่ายเหรียญของบริษัทให้เขาเพิ่มถึง 350 ล้านโทเค็นและในมีนาคม 2018 เขาทำการกู้เงินจากบริษัทไป 4.45 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 135.66 ล้านบาท) ซึ่งก็ยังไม่ได้ทำการคืนเงินที่ยืมไปแต่อย่างใด

การที่นาย Nerayoff เรียกร้องกับบริษัทได้ขนาดนี้เพราะเขารู้จักกับนาย Michael Hlady ที่มีพื้นหลังอันน่ากลัว นาย Hlady ถูกรายงานว่าเคยทำงานให้กับกองทัพสาธารณรัฐไอริช, สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ, สำนักข่าวกรองกลาง และสำนักงานสืบสวนกลางแห่งประเทศ

นาย Hlady ยังถูกรายงานด้วยว่า ได้ทำการข่มขู่ CPO ของ Company 1 ด้วยการบอกว่า รู้ว่าลูกสาวของ CPO คนนั้นไปเรียนที่โรงเรียนไหน

เมื่อวันอังคารของสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย Nerayoff และนาย Hlady ได้ถูกจับกุมในที่สุดจากเหตุการณ์รีดไถที่ถูกรายงานไป และอาจติดคุกถึง 20 ปี แต่ในตอนนี้ ดูเหมือนทั้งสองจะสามารถประกันตัวออกมาได้อยู่โดยนาย Nerayoff จ่ายเงินไป 750,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 22.86 ล้านบาท) และนาย Hlday จ่ายเงินไป 50,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.52 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม ทนายของนาย Nerayoff ได้แย้งว่า Company 1 นั้นติดเงินลูกค้า และแทนที่จะจ่ายเงิน พวกเขากลับสร้างเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาแทน ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่าเรื่องอันวุ่นวายนี้จะลงเอยเช่นไร แต่ก็เป็นอีกบทเรียนสำหรับวงการคริปโตว่า ตอนนี้กำลังตกเป็นเป้าของมิจฉาชีพอยู่ ควรต้องระวังตัวให้มาก ไม่งั้นอาจกลายเป็นเหยื่อเอาได้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น