ภายหลังจากที่ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา จนส่งผลทำให้มันทะลุระดับ 8,000 ดอลลาร์ไปอย่างรุนแรง จนสูญเสียมูลค่าไปกว่า 35,000 บาทภายในระยะเวลาแค่วันเดียวนั้น กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ราคาอันดับต้น ๆ ในไทยก็ได้ออกมาเผยถึงสาเหตุและความเป็นไปได้ของการร่วงลงของราคา BTC ในครั้งนี้แล้ว
นายพิริยะ สัมพันธารักษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิสอนเพื่อการลงทุน Chaloke Dot Com (CDC) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสยามบล็อกเชนถึงความสัมพันธ์ของแรงขุดในเครือข่าย Bitcoin ที่ลดลงเมื่อไม่นานมานี้กับราคาของ Bitcoin ที่ลดลงตาม
เขาชี้ว่าการลดลงของอัตราการขุดของเครือข่าย Bitcoin นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก
“มันลดเร็วมากครับ จนอดคิดไม่ได้ว่า มันเป็นแรงขุดจากหลาย ๆ คน หรือจากคนคนเดียว คือถ้า pool ดับ อะไรงี้ก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าเหมืองเดียวกุมแรงขุดได้มากกว่า 30% นี่ค่อนข้างอันตรายเพราะสามารถทำ tx reorg ได้ ถ้าจะทำ”
Tx reorg ที่เขาหมายถึงนั้นคือการที่เมื่อมีใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีแรงขุดมากกว่า 30% ของทั้งเครือข่าย พวกเขาสามารถที่จะจัดการแก้ไขธุรกรรมในเครือข่ายได้ดั่งใจต้องการ และส่งผลให้ความเป็น decentralized ในเครือข่าย Bitcoin นั้นหมดไป โดยเขากล่าวต่ออีกว่า
“และตอนนี้กำลังขุดที่หายไป แค่ดับ หรือ ขุด chain ใหม่อยู่ ตามหลักของ probability การทำ 51% attack นั้น ใช้ 30% ก็สามารถทำได้ แต่ยาก ประเด็นคือ อันนี้อาจแสดงให้เห็นถึง centralization of mining power ซึ่งไม่ดีต่อ ecosystem […] เนื่องด้วยกำลังขุดส่วนใหญ่รวมตัวกันในจีนนั้น เป็นเรื่องเล็ก เพราะ miner เป็นคนหลายคน อยู่ใกล้กันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นพวกเดียวกัน” พร้อมเสริมว่า
“แต่การที่ดับดับวูบเลยทันทีนี้มันทำให้ตั้งข้อสงสัยได้ว่า หรือมันอาจมีคนคนเดียวที่กุมกำลังขุดใหญ่ๆได้”
ราคา Bitcoin ในอนาคตสามารถเป็นไปได้หลายทาง
นายพิริยะยังได้ชี้ถึงสาเหตุหลัก ๆ สองประการที่ส่งผลทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยเขาคาดการณ์ไว้สองประเด็นที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาร่วง ซึ่งก็คือ
“การลดลงของกำลังขุดทำให้ความเชื่อมั่นลดลง ก็น่าจะเป็นส่วนสำคัญ และ เงินทุนที่ไหลเข้ามาหนุนราคาขึ้นเพื่อรอ Bakkt จากช่วง 6,000 กว่าๆขึ้นมาถึง 12,000 นั้น เมื่อเห็นแล้วว่า Bakkt ไม่มีกำลังก็ถอนทุนออกก่อน”
โดยเมื่อวานนี้นายพิริยะได้ออกมาวิเคราะห์ราคาผ่านทางช่อง Youtube ของเขา และได้มีการคาดการณ์สถานการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นประมาณ 3 สถานการณ์ด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย
- ขึ้นอีกเฮือกแล้วลงใหญ่ (อันนี้ตัดไป)
- ลงมาไม่ใหญ่มาก ราวๆ 7,200-5,500
- ลงทะลุ low ทำ double bottom ที่ต่ำกว่า 4,000
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าราคาจะนั้นจะเริ่มเป็นไปในทิศทางตามที่นายพิริยะได้ออกมากล่าวไว้ตามข้อ 2 และ 3 แล้ว แต่ทว่าในโลกของ Cryptocurrency นั้นอะไรก็สามารถเกิดขึ้นอย่างไม่สามารถคาดคิดได้ และนักลงทุนก็ไม่ควรที่จะประมาท
นายพิริยะเผยว่าทางตัวเขาและ CDC นั้นยังมีแผนการที่จะจัดคอร์สสอนการเทรด Bitcoin อย่างเป็นระบบในเร็ว ๆ นี้ภายในเดือนตุลาคม ทว่าเขายังไม่ได้กำหนดวันที่แน่ชัด และยังอยู่ในโหมดพักผ่อนอยู่
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น