สำนักข่าว Cryptoglobe รายงานว่าค่าแรงขุดหรือ hashrate ของเครือข่าย Bitcoin ร่วงลงโดยไม่ทราบสาเหตุกว่า 40 เปอร์เซ็น เป็นค่าตัวเลขที่ 98 EH/s ลงเป็น 57.7 EH/s ในวันจันทร์ที่ 23 กันยายนก่อนที่มันจะฟื้นตัวกลับขึ้นมา
การลดลงของแรงขุดเกิดขึ้นหลังจากที่ค่า hashrate ทำสถิติใหม่ขึ้นไปเกิน 100 EH/s ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 18 กันยายน ไม่มีใครทราบว่าอะไรอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์การลดฮวบดังกล่าวเพราะเมื่อดูจากค่าข้อมูลแล้วระบบเครือข่ายต่างๆ ที่ใช้ค่าอัลกอริทึมในการขุดแบบเดียวกัน (รวมไปถึง Bitcoin SV และ Bitcoin Cash) ก็ยังคงมีค่าแรงขุดที่ไม่ต่างจากเดิม แสดงให้เห็นว่าผู้ขุดรายใหญ่ก็ไม่ได้เปลี่ยนเป้าหมายการขุดเหรียญ Bitcoin ไปเป็นเหรียญสกุลดิจิตัลเหรียญอื่น
รูปค่าแรงขุดของเครือข่าย จาก Coin.Dance
ค่าแรงขุดของสกุลเงินดิจิตัลมีส่วนช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับเครือข่ายทั้งเครือข่าย เพราะนักขุดจะใช้เครื่องขุดของตนในการคำนวณและค้นหาบล็อกใหม่ๆ ด้วยระบบการพิสูจน์แบบ Proof-of-Work การโอนเหรียญดิจิตัลจะมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้มากขึ้นเพราะการจะโจมตีการการโอนดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่แรงกว่าเดิม
ขณะที่กำลังรายงานข่าวชิ้นนี้อยู่ค่าแรงขุดของระบบ Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวแล้ว (มีค่าอยู่ที่ 88.3 ล้าน TH/s) เมื่อดูจากกระดานแสดงค่าการแจกจ่ายแรงขุดเราจะเห็นว่าไม่มีแหล่งขุดไหนที่สูญเสียเครื่องขุดภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าในช่วงไม่กี่วันมานี้ค่าพูลของ BTC.com จะเปลี่ยนจากที่ 19 เปอร์เซ็นเป็น 24.2 เปอร์เซ็นของค่าแรงขุดทั้งเครือข่าย
ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ราคาของ Bitcoin กำลังดิ้นรนที่จะอยู่ในระดับ 10,000 ดอลลาร์ ค่าแรงขุดกลับมีทิศทางเติบโตตรงกันข้ามกัน ในเดือนกรกฎาคมสำนักข่าว Cryptoglobe รายงานว่าค่าแรงขุดขึ้นไปถึง 47.5 ล้าน TH/s หลังจากที่เพิ่งทำลายสถิติ 65 ล้าน TH/s ไปในเวลาเพียง 1 เดือน
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วค่าแรงขุดของเครือข่าย Bitcoin เมื่อต้นปีนั้นอยู่ที่ 33 ล้าน TH/s และ 2.5 ล้าน TH/s ที่ต้นปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ Bitcoin สร้างปรากฎการณ์พุ่งทำสถิติตลอดกาล 20,000 ดอลลาร์
ที่มา Cryptoglobe
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น