Facebook กำลังก้าวเข้าสู่พื้นที่ของคริปโตด้วยสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขา โดย Libra จะเป็นตัวผลักดันให้กับ Bitcoin และ คริปโตเคอเรนซี่สกุลอื่น ๆ ให้ได้รับความสนใจจากผู้คนเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันสถาบันการเงินหลายแห่งทั่วโลกได้ให้การยอมรับในคริปโตเคอเรนซี่และนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในธุรกิจ อย่างไรก็ตามผู้คนส่วนใหญ่รวมถึงประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกายังคงเชื่อว่า Bitcoin อาจจะเป็นสกุลเงินที่ปูทางไปสู่อาญากรรม
ในโลกที่หลายคนมองว่า Bitcoin เป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย นาง Katie Haun อดีตพนักงานอัยการและหุ้นส่วนของ Andreessen Horowitz ก็ได้ออกมายืนยันว่าเทคโนโลยีเดียวกันนี้ได้ช่วยเธอในการแกะรอยการทำธุรกรรมบล็อกบนเชนหรือ “การแกะรอยของธุรกรรมดิจิทัล” ตามที่ Haun กล่าวนั่นหมายความว่ามันช่วยให้เธอติดตามเงินที่ผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแกะรอยธุรกรรมเงินสด เธอกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า
“รัฐบาลสามารถใช้เทคโนโลยีเดียวกันนี้เพื่อติดตามกิจกรรมของอาชญากรที่อาจจะไม่สามารถทำได้ หากปราศจากเทคโนโลยีพื้นฐานของ bitcoin เราจะไม่สามารถจับคนร้ายเหล่านั้นได้เลย”
Haun ขยายความคำพูดของตัวเธอเอง โดยอ้างว่าการติดตามอาชญากรรมผ่านบัตรเครดิตและบัญชีธนาคารต่างประเทศนั้นยากกว่ามากเพราะต้องมีหมายศาล
นอกจากนี้เธอยังอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ในทางที่ผิดในช่วงแรก ๆ ของการใช้ คริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งมันทำให้เธอนึกถึงวิธีแบล็กเมล์ของผู้สร้างเส้นทางสายไหม (Silk Road) เธอชี้ยังให้เห็นอีกว่าอาชญากรรมบางอย่างเป็นไปไม่ได้เลยที่จะติดตามหรือปิดคดีหากพวกเขาได้รับเป็นเงินสด
“บางครั้งผู้ริเริ่มใช้เทคโนโลยีนี้เป็นคนแรก ๆ นั้นอาจเป็นอาชญากร เพราะอาชญากรมักมองหาช่องโหว่หรือวิธีการใหม่ ๆ ในการใช้ประโยชน์จากระบบ”
นอกจากนี้ Haun ยังได้พูดถึงการมีส่วนร่วมของบริษัทของเธอกับเหรียญ Libra ของ Facebook ในสัปดาห์ที่แล้วบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อโซเชียลมีเดียมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก เพราะว่าสปอนเซอร์คนสำคัญได้ยุติความสัมพันธ์กับ Facebook เนื่องจากภาระหน้าที่ด้านกฎระเบียบที่พวกเขาต้องเผชิญ ยกตัวอย่างเช่น PayPal ประกาศว่าจะไม่สนับสนุนโปรเจคนี้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามนาง Katie Haun ชี้แจงว่า Andreessen Horowitz จะยังคงมีบทบาทที่กระตือรือร้นในโปรเจคต่อไป โดยเธอกล่าวว่า
“ฉันคิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่อันตรายจริงๆ และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเอามาก ๆ ที่จะยอมล้มเลิกในเทคโนโลยีก่อนที่มันจะถูกเปิดใช้งานด้วยซ้ำ”
Haun ยังได้เปิดเผยถึงความจริงที่ว่าอุตสาหกรรมคริปโตนั้นเปิดกว้างสำหรับกฎเกณฑ์ของมัน แต่ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบนั่นคือสิ่งที่ทำให้มันไม่ถูกนำไปใช้เป็นกระแสหลักเสียที
ที่มา : eng.ambcrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น