เนื้อหาสำคัญ
- โรงไฟฟ้าในรัฐมอนทาน่าที่มีอายุกว่า 110 ปี เพิ่งได้รับการอนุมัติจาก Federal Energy Regulatory Commission (FERC) ให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งการขุดเหมืองคริปโต
- โรงไฟฟ้าได้ปิดให้บริการไปในปี 2013 และเจ้าของได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการ Fed ว่าจะทำการเปลี่ยนแปลงหรือรื้อถอน
- การเป็นศูนย์กลางการขุดเหมืองนั้นกล่าวกันว่ามีผลกระทบต่อคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของโรงไฟฟ้าน้อยที่สุด
โรงไฟฟ้าอายุกว่า 110 ปี ในรัฐมอนทานาของสหรัฐอเมริกาเพิ่งได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการพลังงานแห่งสหพันธรัฐ (FERC) เมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อให้กลายเป็นศูนย์กลางการขุด cryptocurrency หลังจากที่มีการพูดคุยกันมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับชะตากรรมของมัน
โรงไฟฟ้าเก่าแก่ ‘Rainbow’ ซึ่งกล่าวกันว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมากและมีคุณูปการสำคัญต่ออุตสาหกรรมเหมืองแร่และรถไฟของมอนแทนามานับตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เดิมที Rainbow เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำมิสซูรี่ในปี 2009 แต่เนื่องจากมีแผนการที่จะสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ทางคณะกรรมการจึงเรียกร้องให้เจ้าของโรงไฟฟ้า Northwestern Corporation ทำการเปลี่ยนโครงสร้างอาคารเก่าหรือรื้อถอนมัน
ตามเอกสาร FERC เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมระบุว่า โรงไฟฟ้า Rainbow ได้หยุดดำเนินการอย่างเป็นทางการในปี 2013 แม้ว่าชุมชนท้องถิ่นยังคงจะลังเลที่จะรื้อถอนโรงไฟฟ้าดังกล่าว ดังนั้นทาง Northwestern Corporation จึงหาทางเลือกที่จะใช้อาคารในช่วงหกปีที่ผ่านมา โดยในเดือนกรกฎาคมปีนี้บริษัทได้เสนอการเช่าโรงไฟฟ้าเก่าแก่ให้กับบริษัท Susteen ในแคลิฟอร์เนียเพื่อทำการขุดเหมือง cryptocurrency โดยกล่าวว่านี่จะเป็นศูนย์กลางการทำเหมืองคริปโตแห่งใหม่ “ที่จะมีผลกระทบน้อยที่สุดและคงไว้ซึ่งคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอาคาร”
เอกสารดังกล่าวระบุว่าจะไม่มีการดัดแปลงโครงสร้างใด ๆ กับเครื่องยก , ผนังและพื้นผิวทั้งหมดของอาคาร รวมถึงห้องควบคุมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบดั้งเดิม , รายชื่อบอร์ดบริหารและจิตรกรรมฝาผนัง โดยทั้งหมดจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่อไป
“ศูนย์กลางการขุดเหมืองที่นำเสนอไปนั้นจะได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการ (โรงไฟฟ้า Rainbow ชุดเก่า) และจะเก็บรักษาลักษณะทางประวัติศาสตร์ของอาคารเอาไว้” อ้างอิงตามเอกสาร
บริษัท Susteen เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นการออกแบบที่ดูเหมือนจะเพิ่งก้าวเข้ามาในพื้นที่ บล็อกเชน ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอ blockchain ของบริษัทมันยังคงไม่ชัดเจนว่าเหรียญคริปโตสกุลเงินไหนที่จะถูกขุดในโรงงานนี้และพลังงานใดที่โรงงานแห่งใหม่นี้จะใช้ในการขุด ซึ่งเราก็คงต้องเฝ้าติดตามกันต่อไป
ที่มา : theblockcrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น