ดูเหมือนว่าโลกของเราจะพัฒนาเร็วขึ้นที่คิดและตอนนี้เทคโนโลยีบล็อกเชนก็กำลังกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยในบทความนี้เรามาพูดกันถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในประเทศจีนและสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลี
จีนรัก Blockchain
จากที่เราเห็นในทวีตด้านล่างโดยทาง cnLedger ได้ติดตามดูการพัฒนาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศจีน นับตั้งแต่การประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโปรเจค Libra จาก Facebook หลังจากนั้นไม่นานจีนก็เริ่มไล่ลบบทความบล็อกเชนที่กล่าวหา Blockchain เป็น Scam ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
3/ Articles saying blockchain technology is a scam are now BANNED.
Who still remember the days when posts promoting blockchain getting deleted real fast? pic.twitter.com/W5iRJ3PDYS
— cnLedger (@cnLedger) October 28, 2019
โดยรัฐบาลจีนต้องการที่จะดำเนินการบังคับใช้หรือส่งเสริมเทคโนโลยีบล็อกเชนไปยังทั่วประเทศ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำการเซ็นเซอร์สื่อและทีวี , เปลี่ยนแปลงกฎหมายและการโฆษณาจูงใจจิตใต้สำนึกของผู้คนเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะได้ยินเสียงของรัฐบาล อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ดูเหมือนว่าจีนจะอยู่ข้างเดียวกับ blockchain ดังนั้นเพื่อความชัดเจนนี้จีนไม่ทำการสนับสนุน Cryptocurrency หรือ ตลาดแบบกระจายอำนาจ(decentralized market) เพราะในความเป็นจริงแล้วพวกเขาต้องการที่จะส่งเสริมการพัฒนาและการวิจัยของ blockchain ในเรื่องของเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิตอลแบบ centralized ที่สามารถสร้างระบบการชำเงินที่มีสภาพคล่องสูง (friction-less payments)
ในอดีตจีนได้มีการต่อต้านชุมชนคริปโตเคอเรนซี่อย่างแข็งขันและการซื้อขายสกุลเงินคริปโตภายในประเทศยังคงถูกห้ามในระดับหนึ่ง ซึ่งมันเป็นกฎหมายกำกับดูแลเจ้าของเหรียญคริปโตที่เข้มงวดมาก แต่อย่างไรก็ตามในวันนี้รัฐบาลดูเหมือนจะพยายามเปลี่ยนมุมมองของพวกเขาก่อนหน้านี้ โดยทำการไล่ลบสื่อและบทความที่อ้างว่า Blockchain เป็น Scam
สินทรัพย์ดิจิทัลของจีน
โดยเราจะเห็นอย่างชัดเจนว่าจีนกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศทางการเงินของพวกเขา โดยหลังจากการประกาศเปิดตัวโปรเจค Libra ได้ไม่นานจีนก็ได้มีการประกาศเช่นเดียวกันว่าพวกเขาจะเปิดตัวสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ centralized เป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตามมันเป็นไปได้ว่าเหรียญดังกล่าวจะคล้ายคลึงกับเหรียญ stable coin ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะถูกตรึงมูลค่าไว้กับเงินหยวน (หรือที่เรียกว่า “kuai”) หรืออาจจะถูกตรึงไว้กับดัชนีบางประเภท โดยสิ่งนี้คล้ายกับกลยุทธ์ที่นาย Zuckerberg และทีมของเขากำลังทำ
จีนมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับระบบการชำระเงินที่มีสภาพคล่องสูง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงล่าสุดของจีนนั้นเริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่เป็นแบบดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นอีกไม่นานการชำระเงินแบบดิจิทัลก็จะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งจีนเข้าใจในจุดนี้ดี เพราะแม้แต่ประธานาธิบดีของประเทศได้ยังได้มีการประกาศความสำคัญของ blockchain เพื่อเป็นอนาคตของเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
นโยบายบล็อกเชนของเกาหลี
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เกาหลีก็ได้ประกาศมีความสำคัญของการวิจัยบล็อกเชนด้วยเช่นเดียวกัน โดยในวันช่วงสิ้นเดือนตุลาคม 2019 ประธานคณะกรรมการของเกาหลีได้แนะนำสถานะทางกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับ cryptocurrency เกาหลีเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านการจัดประเภทสินทรัพย์มากที่สุดในโลก นอกจากนี้เกาหลียังมีวอลุ่มและการมีส่วนร่วมในภูมิภาคมานานหลายปีแล้วและยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังมีตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชนอีกด้วย
ในปัจจุบันดูเหมือนว่าเกาหลีจะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสองโปรเจคหลัก ๆ อันแรกก็คือ ICON ซึ่งได้ประกาศการผลักดันให้ระบบนิเวศแบบ centralized ไปสู่การกระจายอำนาจแบบ decentralized อย่างสมบูรณ์ โดยก่อนหน้านี้ ICON สูญเสียส่วนแบ่งตลาดจำนวนมากในตลาดขาลง แต่ดูเหมือนว่าจะยังคงมีการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและทีมพัฒนามากกว่า 12 ทีมที่ทำงานเพื่อร่วมกันพัฒนาโปรเจคนี้ โปรเจคอันที่สองในภูมิภาคนี้คือ Walton Blockchain ซึ่งร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศของเกาหลีในการฝึกอบรมและให้ความรู้แก่นักเรียนที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อใหม่ไปเป็น ‘สถาบันบล็อกเชนเกาหลี’
ที่มา : sanfranciscotribe
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น