ในการสัมภาษณ์ครั้งใหม่ของนาย Brad Garlinghouse CEO ของ Ripple ซึ่งเขาได้มีการนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ XRP ในปี 2019 ไว้ดังนี้
ในปีนี้ราคาของ XRP เริ่มต้นซื้อขายกันอยู่ที่ราคา $ 0.3525 และปัจจุบันมีการซื้อขายกันอยู่ที่ $ 0.2903 ในขณะที่ Bitcoin และตลาด crypto ส่วนใหญ่มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
โดยเมื่อมีคำถามจากนักลงทุนเกี่ยวกับความกังวลของการเทขายเหรียญ XRP ในปีนี้ นาย Brad Garlinghouse ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg ว่าเขามุ่งเน้นไปที่ระยะยาวซะมากกว่า
“เรากำลังให้ความสำคัญกับไประยะยาว ผมมักบอกกับพนักงานเสมอว่า ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในช่วงสองสามวัน , สามสัปดาห์หรือสามเดือน เพราะผมคิดว่าการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถทำธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราจะทำในอีกสิบปีหรืออาจจะสองปี มันเหมือนกับการวิ่งมาราธอนและเราเพิ่งวิ่งมาได้เพียงแค่สองไมล์เท่านั้น ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าราคาของ XRP จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะสั้น”
ผมคิดว่าถ้าหากเราสามารถเปิดการใช้งาน XRP ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยวัดจากความเร็วของการทำธุรกรรมและค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ผู้คนจะหันมาใช้มันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผมคิดว่านั่นยังคงเป็นความผันผวนสำหรับคริปโตในวงกว้าง
ตลาดมักมีความผันผวนเกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งมีบางครั้งที่ XRP มีผลตอบแทนสูงกว่า Bitcoin และมีบางครั้งที่ผลตอบแทนของมันต่ำกว่า Bitcoin แต่เมื่อคุณมองว่าสิ่งนี้เป็นการเดินทางในระยะยาว คุณจะเริ่มมองเห็นแนวโน้มของตลาดทั้งหมดและรู้สึกได้ว่าระบบนิเวศคริปโตมีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้น”
นอกจากนี้นาย Garlinghouse ยังได้กล่าวถึงเรื่องสถานะของโปรเจคเหรียญ Libra อีกด้วย
แม้ว่าโปรเจคนี้จะถูกขัดขวางโดยหน่วยงานกำกับดูแลระดับโลก แต่ถึงกระนั้นเขาคิดว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะตัด Libra ออกไปจากการแข่งขัน ในขณะที่พวกเขากำลังมองหาผู้กำหนดนโยบายใหม่ ๆ เพื่อทำการสนับสนุนเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ คริปโต
“ผมคิดว่ามันเร็วเกินไปที่จะตัด Libra ออกจากการแข่งขัน โปรเจค Libra นั้นได้ถูกเปิดตัวในเดือนมิถุนายนด้วยความตื่นเต้นและความกระตือรือร้น ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาคุณจะเห็นว่าบริษัท Mastercard และ PayPal และคนอื่น ๆ กำลังเริ่มถอยห่างออกจากพวกเขา
ผมคิดว่าเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ผมคิดว่า Facebook มักก้าวร้าวอยู่เสมอ บางทีอาจเป็นเพราะความไร้เดียงสาของพวกเขาที่คิดว่าพวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ แม้จะมีความกังวลเกิดขึ้นก็ตาม
ผมคิดว่าวิธีการที่ Ripple จะสามารถใกล้ชิดกับผู้คนได้มากที่สุดก็คือการทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแล โดยเราได้ร่วมมือกับพวกเขาตั้งแต่ช่วงเริ่มแรก เราทำสิ่งนี้ในสิงคโปร์และเราได้ทำสิ่งนั้นไปยังทั่วโลก ซึ่งผมคิดว่ามันทำหน้าที่ได้ดีในแง่ของการสร้างแรงผลักดันให้กับลูกค้าของเรา”
ที่มา : dailyhodl
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น