หลังจากที่เมื่อเกิน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาได้มีการปรับลดระดับของราคาลงมาตามที่นักวิเคราะห์หลาย ๆ คนได้คาดการณ์กันเอาไว้เมื่อตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาในที่สุดมันก็เกิดขึ้นจริงซึ่งตลอดทั้งวันนี้ราคา Bitcoin มีการปรับลดลงมากว่า 5 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน ซึ่งลงมาจากจุดสูงสุดของวันที่ 9,250 ดอลลาร์ถึง 8,700 ดอลลาร์ โดยพวกเขาได้สูญแนวรับที่สำคัญ 9,000 ดอลลาร์ไปเป็นที่เรียบร้อยหลังจากที่พยายามยื้อมาตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา
การเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่แน่นอนนี้ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนอ้างว่ามีความเป็นไปได้ที่ Bitcoin จะกลับเป็นขาลงอีกครั้ง ยกตัวอย่างเช่นนักลงทุนและผู้ที่ให้การสนับสนุนทองคำอย่างนาย Peter Schiff ได้ออกมาเขียนทวิตของเขาสั้น ๆ เมื่อเช้านี้ว่า
“ดูเหมือนว่าการปั้มราคาของ Bitcoin จะถึงจุดจบแล้ว เตรียมตัวให้ดีสำหรับการพุ่งลงต่ำอีกครั้งได้เลย”
ซึ่งตัวของนาย Peter Schiff ไม่ได้หยุดแต่เพียงเท่านี้เพราะหลังจากนั้นเขายังได้เขียนอีกว่า
“Bitcoin จะไม่มีวันขึ้นไปแตะถึง 100,000 ดอลลาร์เด็ดขาด” ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการบลัฟเพื่อกำจัดความหวังและความฝันของอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ให้น้อยที่สุด
ในขณะที่ Peter Schiff ไม่ได้อธิบายเหตุลของเขาว่าทำไมมันถึงควรจะเป็นแบบที่เขาคาดหวัง ซึ่งเขาได้อ้างว่า Bitcoin เป็นสินค้าที่ไม่ควรมีมูลค่า และไม่เหมาะสมกับการลงทุน โดยเฉพาะกับการเอามาเทียบกับแร่โลหะต่าง ๆ เช่นทอง
ทำไมนาย Peter Schiff ถึงคิดว่า Bitcoin จะล่มสลาย
ประการแรกเขาได้อ้างว่ากราฟต่าง ๆ ของคริปโตเคอเรนซี่ต่างแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่ากำลังอยู่ในตลาดหมีแบบสุด ๆ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมานักลงทุนอิสระมองว่ากราฟของ Bitcoin ค่อนข้างดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้เขายังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ธงแบบหมี หรือรูปแบบขาลงตามทางและอาจจะลงไปถึง 6,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะหมายถึงการลดลงไปอีกประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์จากราคาปัจจุบันหากราคาเคลื่อนไหวลงไปจริง ๆ
แต่นี้ยังไม่ได้เป็นจุดจบของทั้งหมด เขายังได้กล่าวต่อไปอีกว่าเพราะว่าไม่ได้มีเพียงแต่รูปแบบของธงขาลงเท่านั้น Bitcoin ยังได้สร้างรูปแบบ head and shoulders ขึ้นมาเตรียมการล่มสลายไปที่ 2,000 ดอลลาร์อีกด้วย
ประการที่ 2 ของนาย Peter Schiff เชื่อว่ามีคนที่สามารถควบคุมตลาดได้จริง ๆ ตามที่เขาได้เขียนไว้เมื่อเดือนก่อนทางทวิตเตอร์
“ผู้ที่ถือ Bitcoin จะไม่มีวันยอมขายเพราะพวกเขาเชื่อว่าจะรวยได้จากการถือพวกมันไว้ แต่เหล่าวาฬทั้งหลายกำลังขายเพื่อนำเงินออกไปใช้ก่อนที่มันจะจบลง ซึ่งพวกวาฬเหล่านี้ต้องทำให้แน่ใจว่าผู้ที่ถือ Bitcoin จะไม่สูญสิ้นศรัทธาและนำเงินออกไปซะก่อน และนำเงินเข้ามาอีก”
อันที่จริงนาย John Griffin ศาสตราจารย์ของ University of Texas และนาย Amin Shams ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ Ohio State University เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ในรายงานของพวกเขากว่า 119 หน้าว่า Tether มีส่วนช่วยดันราคา Bitcoin ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในปี 2017 ซึ่งพวกเขาได้ได้เคยให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg ไว้ว่า
“จากการวิจัยพบว่านักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนในความเคลื่อนไหวราคาของ BTC มีเพียงเจ้ามือรายเดียวเท่านั้นที่ทำ หลังจากนั้นนักลงทุนรายย่อยจะเริ่มรู้แล้วว่าเค้าเอาเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปให้กับใครก็ไม่รู้ที่แทบไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้า”
ที่มา : ethereumworldnews
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น