<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เผยจำนวนเหรียญ Altcoin ที่เจ้ามือส่วนใหญ่กำลังถือไว้อยู่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางเว็ปไซต์ IntoTheBlock ได้ทำการจัดอันดับที่อยู่กระเป๋าเงินที่มีจำนวนคริปโตเคอเรนซี่ถือครองไว้มากที่สุด ซึ่งสิ่งที่พวกเขาค้นพบเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

เราทราบกันดีว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะประเมินความเหลื่อมล้ำในระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากว่าบางที่อยู่กระเป๋าเงินนั่นอาจเป็นเจ้าของโดยกระดานแลกเปลี่ยนหรือบริษัทดูแลสินทรัพย์คริปโต แต่ในบางกรณีกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า ‘ปลาวาฬ’ จำนวนไม่กี่รายก็อาจเป็นเจ้าของสกุลเงินคริปโตส่วนใหญ่เหล่านั้น

โดยทาง IntoTheBlock (@intotheblock) ได้เริ่มทำการค้นหาตัวเลขที่แท้จริงและนี่คือสิ่งที่พวกเขาค้นพบ

ความเหลื่อมล้ำของคริปโตเคอเรนซี่

ความเหลื่อมล้ำในการเป็นเจ้าของคริปโตเคอเรนซี่นั่นเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะโดยปกติแล้วในระบบการกระจายอำนาจ บางคนจะได้รับผลประโยชน์หากพวกเขาถือครองเหรียญคริปโตไว้เป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามมันมีคำถามต่อไปว่าแล้วความเหลื่อมล้ำเหล่านั้นจะสามารถอยู่ในระบบการกระจายอำนาจได้อย่างไร โดยนี่คือตัวเลขการถือครองสำหรับเหรียญ altcoins ยอดนิยม

  • Ethereum (ETH)— มี 151 ที่อยู่กระเป๋าเงิน ที่เป็นเจ้าของ 39% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด
  • Bitcoin Cash (BCH)—มี 112 ที่อยู่กระเป๋าเงิน ที่เป็นเจ้าของ 29% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด
  • Litecoin (LTC)—มี 131 ที่อยู่กระเป๋าเงิน ที่เป็นเจ้าของ 47% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด
  • Bitcoin SV (BSV)—มี 103 ที่อยู่กระเป๋าเงิน ที่เป็นเจ้าของ 24% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด
  • Cardano (ADA)—มี 41 ที่อยู่กระเป๋าเงิน ที่เป็นเจ้าของ 39% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด
  • Tether (USDT)—มี 132 ที่อยู่กระเป๋าเงิน ที่เป็นเจ้าของ 63% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด

จากข้อมูลของ IntoTheBlock เราจะเห็นได้ว่า Litecoin และ Tether ดูเหมือนจะมีความเหลื่อมล้ำในจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงกว่าสกุลเงินคริปโตตัวอื่น ๆ  ซึ่งนี่จะส่งผลกระทบต่อเส้นทางของโปรเจคเหรียญคริปโตเหล่านี้อย่างไร

ตัวเลขเหล่านี้หมายถึงอะไร

บางคนอาจหัวเราะเยาะกับการจัดอันดับสกุลเงินคริปโตในครั้งนี้ที่มีความเหลื่อมล้ำกันเพียงไม่กี่ที่อยู่เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหากคุณใช้สกุลเงินคริปโตอย่างเช่น Bitcoin Cash มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องกังวล เนื่องจากว่า Bitcoin Cash และสกุลเงินคริปโต proof-of-work ตัวอื่น ๆ ไม่ได้ใช้โมเดลการกำกับดูแลขององค์กร (Governance model)

แต่ในทางกลับกัน Ethereum และ Cardano นั้นไม่ใช่แบบนั้น เพราะมันมีโมเดลการกำกับดูแลอยู่ ดังนั้นความเหลื่อมล้ำของที่อยู่กระเป๋าเงินจึงอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในวงกว้างและอาจนำไปสู่การตัดสินใจของผู้ใช้สกุลเงิน Ethereum ส่วนใหญ่

Cryptocurrency

เพราะฉะนั้นผลกระทบของสินทรัพย์คริปโตที่มีความเหลื่อมล้ำสูงจึงขึ้นอยู่กับระบบนิเวศของเหรียญคริปโตนั้น ๆ มันเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมเหล่าผู้มีอำนาจหรือ ‘ปลาวาฬ’ ในระบบการกระจายอำนาจ ซึ่งนี่เป็นปัญหาที่นักพัฒนาจะต้องเก็บไว้ในใจต่อไป แต่อีกไม่นานความเหลื่อมล้ำของที่อยู่เหล่านี้จะต้องถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างแน่นอน

ที่มา : beincrypto

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น