Millennials หรือ Gen Me นั้นคือคนที่เกิดในช่วงระหว่างปี 1980-2000 ซึ่งจะต่างจาก Gen Y ตรงที่คน Gen Me มีการแบ่งตามอุปนิสัยมากกว่าอายุ โดย Gen Me นั้นจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงและถือตนเองเป็นจุดศูนย์กลาง โดยในอเมริกาคนเหล่านี้มักจะมีการศึกษาค่อนข้างสูง ใช้เทคโนโลยีเก่งและที่สำคัญเปลี่ยนงานบ่อยด้วย
โดยรายงานล่าสุดจากโบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่ ‘Charles Schwab’ เผยให้เห็นว่ากลุ่ม Millennials เป็นจำนวนมากได้ลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ในพอร์ตการลงทุนของพวกเขามากกว่าหุ้นของ Netflix แล้ว
รายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมาระบุว่า (กลุ่มคนอายุระหว่าง 25-39 ปี) มีสัดส่วนการลงทุนในผลิตภัณฑ์ Bitcoin Trust (GBTC) ของ Grayscale ที่ระดับ 1.84% ซึ่งมากกว่าสัดส่วนการลงทุนหุ้น Netflix อยู่ถึง 0.26% โดยบริษัท Charles Schwab จะเผยแพร่รายงานนี้ในทุก ๆ ไตรมาสและจะเก็บรวบรวมข้อมูลของแผนการเกษียณอายุของคนกว่า 142,000 ราย ซึ่งปัจจุบันมีเงินในบัญชีเกษียณอายุของ Schwab Personal Choiceอยู่ที่ระหว่าง 5,000 ถึง 10 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ GBTC ยังเป็นที่นิยมมากกว่าหุ้นของกลุ่มบริษัท Warren Buffett อีกด้วย เช่น Berkshire Hathaway, Walt Disney, Microsoft, และ Alibaba
Grayscale ซึ่งเป็นเจ้าของ GBTC Digital Currency Group ได้เปิดตัว GBTC ในปี 2013 ในฐานะนักลงทุนที่ได้รับการรับรองและในปี 2015 พวกเขาก็ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงิน (FINRA) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชน (IPO)
GBTC เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในแง่ของคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งเราจะเห็นได้จากกระแสเงินไหลเข้าที่มีมูลค่าสูงถึง 304.4 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกันยายน ยิ่งไปกว่านั้น Grayscale ยังเคยยื่นขอการอนุมัติ bitcoin exchange-traded product (ETF) ในปี 2017 อีกด้วย แต่ต่อมาก็ถูกปฏิเสธโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC)
ปัจจุบัน SEC ยังไม่เคยอนุมัติข้อเสนอ bitcoin ETF ของสถาบันใด ๆ เนื่องจากพวกเขายังคงกังวลเกี่ยวกับการฉ้อโกงและการปั่นราคาตลาด
แล้วเหล่า Gen X และ baby boomers ล่ะ ?
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามกลุ่ม Genx (กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 40-54 ปี) และกลุ่ม baby boomers (กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 55-75 ปี) กลับไม่ได้ลงทุนใน GBTC เท่ากลุ่ม Milenail โดยรายงานระบุว่าทั้งสอง Gen มักลงทุนในหุ้นอยู่ 3 ตัวนั่นก็คือหุ้น Apple, Amazon และ Berkshire Hathaway อ้างอิงจากข้อมูลของ Schwab
บัญชีงบดุลโดยเฉลี่ยสำหรับผู้ที่มีส่วนร่วมทั้งหมดในไตรมาสที่สามของปี 2019 นั่นจะอยู่ที่ 276,929 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลข 276,547 ดอลลาร์ของไตรมาสก่อนและสูงกว่ายอดเฉลี่ยในไตรมาสที่สามของปี 2018 (275,362 ดอลลาร์) และในส่วนของรายงาน Baby Boomers นั้นจะมียอดเงินในบัญชีเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 394,064 ดอลลาร์ ตามด้วย Gen X ที่ 213,018 ดอลลาร์และ Millennials ที่ 68,756 ดอลลาร์
ปัจจุบัน Schwab เป็นบริษัทนายหน้าการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาโดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ากว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่แล้วบริษัทได้ เข้าซื้อกิจการ TD Ameritrade ที่ราคา 2.6 พันล้านดอลลาร์ ข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 ดังนั้นจึงให้บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการอยู่ที่ 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
Schwab และ TD Ameritrade ทั้งสองบริษัทมีแนวทางดำเนินงานที่แตกต่างกันมากในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ โดย Schwab นั้นไม่มีบริการซื้อขายคริปโต ส่วน TD Ameritrade มีการเสนอบริการซื้อขาย Bitcoin Future ของกระดานเทรดยักษ์ใหญ่ CME Group และการลงทุนในกระดานเทรดของ ErisX โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้สื่อข่าว theblockcrypto รายงานว่าข้อตกลงระหว่าง Schwab และ TD อาจส่งกระทบต่อการซื้อขายสกุลเงินคริปโตบน TD ซึ่งในที่สุดก็อาจจะส่งผลกระทบต่อ ErisX ด้วย
ที่มา : theblockcrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น