<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

5 รูปแบบกราฟแท่งเทียนส่งสัญญาณขาขึ้นบนกราฟ Bitcoin ที่นักเทรดควรรู้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า “กราฟเทคนิคอล” ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของนักลงทุนในตลาดคริปโตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บางคนอาจจะคิดว่ามันไม่มีความสำคัญอะไร แต่จริง ๆ แล้วมันเป็น “พื้นฐาน” ที่สำคัญไม่แพ้เครื่องมือ (indicator) ตัวอื่น ๆ เลย 

“กราฟแท่งเทียน” หรือ Candlesticks คือกราฟเทคนิคคอล ที่หลายคนมักจะดูในเรื่องของ “รูปแบบ” ของการก่อตัวที่เรียกว่า Pattern มากกว่า แต่ข้อเสียก็คือ Pattern กราฟแท่งเทียนมีหลายร้อยแบบ จนจำได้แทบไม่หมด บางรูปแบบก็คล้ายกันแต่มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป และบางรูปแบบก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้จริง

โดยในวันนี้เราจะมานำเสนอรูปแบบแท่งเทียน 5 แบบที่จะบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงขาขึ้นที่นักเทรดคริปโตทุกคนควรต้องรู้เอาไว้

1. Bullish Engulfing candle

รูปแบบ Bullish Engulfing เป็นแพทเทิรน์ที่บ่งบอกว่าแรงซื้อกำลังจะเข้ามาและมีวอลุ่มมากกว่าแรงขาย ทำให้กราฟเทียนพุ่งขึ้นอย่างโดดเด่น แรงซื้อจะเข้ามาแทนที่และราคาก็มีโอกาสที่พุ่งขึ้นได้อีก 

รูปแบบนี้มักจะเป็นการกลับตัวของแนวโน้มขาลงและบ่งบอกว่าผู้ซื้อกำลังเข้าสู่ตลาดและมีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาให้สูงขึ้นต่อไป รูปแบบนี้จะสังเกตุได้จากแท่งเทียนเล่มที่สอง โดยจะเห็นได้ว่าแท่งเทียนเล่มที่สองได้กลืนกินแท่งเทียนสีส้มก่อนหน้าจนหมด

สิ่งนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อราคาเปิดในวันที่สองต่ำกว่าราคาที่ปิดในวันแรก แต่ราคาจะเพิ่มขึ้นหลังจากนั้นและปิดสูงกว่าการเปิดราคาของวันแรกเสมอ วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดในกราฟรูปแบบนี้ก็คือ การรอว่าแท่งเทียนแท่งต่อไปจะมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด โดยส่วนใหญ่แล้วนักเทรดแบบอนุรักษ์นิยมจะทำการไม่เข้าซื้อจนกว่าแท่งเทียนถัดไปจะปิดสูงกว่าราคาของเทียนแท่งที่สอง 

2. Bullish Hammer

รูปแบบ ‘bullish hammer’ มักจะเกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนได้ร่วงลงไปสู่จุดต่ำสุดในแนวโน้มขาลง ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้นมาเหนือราคาที่เปิดจนทำให้ไส้เทียนมีลักษณะที่คล้าย ‘ฆ้อน’ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงกำลังจะเปลี่ยนไปเป็นแนวโน้มขาขึ้นแล้ว แต่ถึงกระนั้นนักเทรดที่ฉลาดก็จะรอจนไปกว่าแท่งเทียนแท่งต่อไปจะยืนยันแล้วว่าแนวโน้มขาขึ้นได้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ ถึงค่อยทำการตัดสินใจเข้าซื้อ

3. Three White Soldiers

รูปแบบ three White Soldiers หรือ สามทหารเสือขาว เป็นแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มขาลงไปเป็นขาขึ้น โดยจะประกอบไปด้วยแท่งเทียนสีฟ้า 3 เล่มติดต่อกันและจะมีไส้เทียนขนาดเล็กเกิดขึ้น ซึ่งจะเปิดและปิดราคาสูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า 

มันเป็นสัญญาณที่มักเกิดขึ้นหลังจากมีช่วงขาลงและแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่คุณต้องสังเกตุอยู่เสมอเลยก็คือ ตัวแท่งเทียนตัวถัดไปควรจะปิดราคาเหนือแท่งเทียนก่อนหน้าและตำแหน่งราคาเปิดของแต่ละแท่งเทียนควรจะอยู่บนจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนตัวก่อนหน้าเสมอ

4. Rising Three Methods

“rising three methods” เป็นรูปแบบแท่งเทียนในช่วงขาขึ้นที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีแท่งเทียนสีส้ม 3 เล่ม โผล่ขึ้นมาบนกราฟ ภายในกรอบของแท่งเทียนสีฟ้าขนาดใหญ่แท่งแรก

รูปแบบดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าแม้จะมีแรงกดดันจากการขาย แต่ผู้ซื้อก็ยังสามารถควบคุมตลาดได้ โดยรูปแบบนี้จะมีลักษณะที่เพิ่มขึ้นจากมากไปหาน้อย ซึ่งเป็นรูปแบบการรวมตัวในแนวโน้มขาขึ้นที่จะสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจน 

5. Piercing Line

“Piercing Line” คือ รูปแบบการกลับตัวไปเป็นขาขึ้นที่จะประกอบไปด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง โดยราคาจะร่วงสู่จุดต่ำสุด (แท่งเทียนสีส้มขนาดใหญ่) และวันถัดมาราคาจะเปิดต่ำกว่าราคาที่ปิดของแท่งสีส้มก่อนหน้าหรือมีช่องว่าง (gap) เกิดขึ้น แต่สุดท้ายราคาปิดจะวิ่งขึ้นเป็นแท่งเทียนสีฟ้าขนาดใหญ่ (ตามภาพด้านล่าง) โดยแท่งสีฟ้านั้นจะต้องปิดราคาเกิน 50 % หรือเหนือจุดกึ่งกลางของแท่งสีส้มเสมอ

ข้อสรุป

Candlesticks Pattern มีรูปแบบจำนวนมากและซ้ำๆกัน แต่อาจจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน 

นักเทรดไม่จำเป็นต้องท่องจำ เข้าใจเพียง 4-5 รูปแบบ ก็สามารถนำมาใช้ในตลาดคริปโตได้จริงๆ แต่กราฟแท่งเทียนจำเป็นต้องใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น Volume ,MACD หรือแม้แต่การตีเส้น Trendline ก็เป็นเรื่องสำคัญ

สิ่งที่นักเทรดต้องทำความเข้าใจเป็นอันดับแรกเลยก็คือ กราฟเทคนิคอลไม่ได้มีความแม่นยำ 100% หรือจะทำเงินได้แน่นอนจากตลาด ทุกเครื่องมือมีโอกาสล้มเหลวได้หมด แต่สิ่งที่จะทำให้เราได้กำไรอย่างยั่งยืนนั้นคือ การบริหารเงินหน้าตัก หรือ Money Management นั้นเอง

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น