ในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของนาย Tendayi Kapfidze ซึ่งเป็นหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Lending Tree เขาได้ให้ความเห็นกับทาง Yahoo Finance ว่า Bitcoin (BTC) นั้นเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ไม่สามารถแก้ปัญหาที่แท้จริงได้
“มันเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ที่คุณสามารถสร้างรายได้จากคนที่เข้ามาทีหลังคุณ
มันไม่มียูทิลิตี้จริง ๆ ในโลกใบนี้ พวกเขาพยายามสร้างโปรแกรมอรรถประโยชน์นี้ขึ้นมาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว มันเป็นโซลูชั่นในการค้นหาปัญหาและมันก็ยังไม่พบปัญหาที่สามารถแก้ไขได้จริง ๆ”
นาย Kapfidze พร้อมกับนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำอีกหลายคนได้เรียก Bitcoin เป็นเครือข่ายพีระมิดหรือธุรกิจแชร์ลูกโซ่
เช่นเดียวกับนาย Nouriel Roubini ที่ได้กล่าวผ่านทาง Twitter ไว้เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2014 ว่า :
“Bitcoin นั้นไม่ใช่สกุลเงิน มันเป็นโปรเจคแชร์ลูกโซ่และเป็นท่อขนส่งสำหรับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายและมันก็ยังไม่ปลอดภัยจากการถูกแฮ็ก”
รวมถึงนาย Paul Krugman ที่ได้กล่าวผ่าน Twitter ไว้เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 ว่า :
“แน่นอนผมไม่ใช่คนเดียวที่ได้รับความสุขจากการมองดู คริปโต – ไม่ว่าจะเป็นความเพลิดเพลินในการมองฟองสบู่ของ Bitcoin , การปั่นราคา Bitcoin ที่น่ารังเกียจและความผันผวนที่บ้าคลั่ง ฯลฯ
ประเด็นก็คือถึงแม้ว่าฟองสบู่จะส่งผลต่อแชร์ลูกโซ่ตามธรรมชาติของมัน แต่พวกมันก็ไม่ได้จบลงอย่างหมดจดและทันใดนั้นเองแผนการแชร์ลูกโซ่ของคริปโตก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ซึ่งคุณจะต้องอดทนรอดูอีกหน่อย”
นอกจากนี้ยังมีนาย Agustín Carstens ซึ่งได้ไปบรรยายที่ ‘House of Finance’ ของมหาวิทยาลัยเกอเธ่ในแฟรงค์เฟิร์ตเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมาว่า :
“เทคโนโลยีนี้ไม่ได้ช่วยทำให้เทคโนโลยีดีขึ้นหรือทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งในกรณีของ Bitcoin เราจะเห็นได้ชัดว่าถึงแม้ว่ามันอาจเป็นระบบชำระเงินทางเลือกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางรัฐบาล แต่มันก็ได้กลายเป็นฟองสบู่ , ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
ทั้งรูปแบบพีระมิดและแชร์ลูกโซ่นั้นเป็นรูปแบบของการหลอกลวง ซึ่งผู้กระทำความผิดได้ทำการฉ้อโกงคนอื่น ๆ โดยการใช้เครือข่ายทางการตลาดเพื่อดึงดูดนักลงทุนใหม่ ๆ มาช่วยในการสร้างชั้นของพีระมิดให้สูงขึ้น ในขณะที่พวกเขายืนอยู่ที่ด้านบนสุดของพีระมิดแห่งนี้ ในรูปแบบของธุรกิจเหล่านี้ผู้เข้าร่วมจะตระหนักดีว่าพวกเขากำลังสร้างรายได้จากชักชวนคนอื่น ๆ ให้มาสมัครในโครงการ
แชร์ลูกโซ่จะเริ่มจ่ายนักลงทุนก่อนโดยใช้เงินจากนักลงทุนที่เข้ามาใหม่ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่าการลงทุนของพวกเขาได้รับผลตอบแทนที่ถูกกฎหมาย
Bitcoin นั้นเป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกและเป็นระบบสกุลเงินดิจิทัลแบบเพียร์ทูเพียร์ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถชำระเงินและโอนเงินทั้งในประเทศและข้ามพรมแดนได้อย่างง่ายดาย มันถูกออกแบบมาเพื่อตัดพ่อค้าคนกลางออกไป ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่จำเป็นต้องมีธนาคารหรือบริการทางการเงินแบบดั้งเดิม นอกจากนี้สกุลเงินดิจิทัลตัวนี้ยังได้กลายมาเป็นเครื่องมือในการลงทุนสำหรับนักเก็งกำไรอีกด้วย
คริปโตเคอเรนซี่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีสำหรับประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรและช่วยอาชญากรในการฟอกเงิน รวมถึงกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ Bitcoin ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีการชำระเงินออนไลน์ , ร้านค้าปลีก , ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์และรายการตั๋วอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นบางบริษัทยังได้ใช้ Bitcoin เพื่อจ่ายเงินเดือนของพนักงานอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามการใช้งานระหว่างร้านค้าและผู้บริโภคนั้นยังคงค่อนข้างล่าช้าในแง่ของการทำธุรกรรม
ผู้ริเริ่มเสนอ Bitcoin อ้างว่ามันเป็นระบบการเงินแบบใหม่และเปรียบเทียบได้กับการยอมรับของอินเทอร์เน็ตในยุคแรก ๆ เมื่อมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เริ่มใช้อีเมล
ที่มา : dailyhod
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น