ประเทศเกาหลีใต้เตรียมร่างกฎหมายภาษีคริปโตแล้ว โดยเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมากล่าวว่ากฎหมายที่มีอยู่ตอนนี้ไม่สามารถเรียกเก็บภาษีจากการทำธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีของบุคคลได้ ซึ่งมันค่อนข้างที่จะขัดแย้งกับการที่ก่อนหน้านี้กรมสรรพากรได้เรียกเก็บภาษีกับกระดานเทรด Bithumb เป็นจำนวนกว่า 80 พันล้านวอน
สำนักข่าว The Korea Herald ได้มีรายงานออกมาว่าทางกรรมสรรพากรนั้นได้รับเงินภาษีจำนวนดังกล่าวจาก Bithumb แล้ว ด้านนาย Choi Kyo-il ผู้ร่างกฎหมายของพรรคเสรีภาพเกาหลีและสมาชิกของคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเงินของสมัชชาแห่งชาติได้รับข้อมูลจากกระทรวงยุทธศาสตร์และการเงินเกี่ยวกับการเก็บภาษีและเงินดิจิทัล เอกสารแสดงให้เห็นว่าภายใต้กฎหมายภาษีปัจจุบันผลกำไรของแต่ละบุคคลจากการทำธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีนั้นไม่เข้าข่ายที่จะสามารถเก็บภาษีเนื่องจากไม่ได้ระบุไว้ในกฎหมายภาษีเงินได้
ดังนั้นเมื่อไม่มีการระบุเอาไว้ว่าผลกำไรจากการทำธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีของบุคคลให้ถือว่าเป็นเงินได้ มันจึงไม่สามารถเก็บภาษีเงินได้จากกรณีนี้ ด้าน Bithumb ก็ไม่ได้นิ่งเฉยและเตรียมยื่นฟ้องดำเนินคดีเหมือนกันเพราะว่ากฎหมายที่ใช้อยู่นั้นยังมิได้อนุญาตให้มีการเก็บภาษีคริปโตเคอร์เรนซีได้
การเก็บภาษีกับคริปโตเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุทธศาสตร์และการเงินของเกาหลีใต้ยืนยันว่าจะจัดเก็บภาษีสินทรัพย์เสมือนโดยการแก้ไขกฎหมายภาษีในภายหลังเนื่องจากกฎหมายปัจจุบันที่บังคับใช้อยู่นั้นไม่อาจเก็บภาษีจากคริปโตได้โดยเขากล่าวว่า:
“ในกรณีของการทำธุรกรรมสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีของบริษัท การทำธุรกรรมทั้งหมดที่เป็นการเพิ่มเงินสุทธิของกิจการจะต้องเสียภาษีภายใต้กฎหมายปัจจุบันดังนั้นมันจึงต้องเสียภาษี แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บภาษีโดยเพียงแค่แยกประเภทการทำธุรกรรมจากเงินดิจิทัล”
นอกจากนี้อดีตรัฐมนตรียังกล่าวอีกด้วยประเทศเกาหลีใต้ก็ได้ดูแนวโน้มของประเทศอื่นๆ ด้านการเก็บภาษีคริปโตด้วยเช่นกันเพื่อให้มีความสอดคล้อง
“เรากำลังเตรียมมาตรการจัดเก็บภาษีคริปโตเคอร์เรนซีโดยได้มีการดูกรณีศึกษาจากประเทศใหญ่ๆ และดำเนินการตามมาตรฐานนานาชาติเพื่อป้องกันการฟอกเงิน”
เกาหลีใต้ต้องนิยามคริปโตเคอร์เรนซี
อ้างอิงจากสื่อ Korea Timesในขณะที่รัฐบาลพยายามที่จะร่างกฎหมายเก็บภาษีการทำธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีและพยายามให้มันมีผลบังคับใช้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 นี้ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือรัฐบาลต้องมีการนิยามคริปโตเคอร์เรนซีและเงินดิจิทัลให้มีความชัดเจน
ซึ่งนั่นหมายความว่าจะต้องนิยามด้วยว่าการได้กำไรจากการทำธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีนั้นมีความเหมือนกับการได้กำไรจากสินทรัพย์อื่นๆ อย่างไร เช่น หุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ และรัฐบาลจะต้องดูการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนกระดานเทรดก่อนที่จะผ่านร่างกฎหมายภาษีคริปโตด้วย
ด้านของสหรัฐอเมริกาก็กำลังมองหาคำนิยามเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและกฎหมายภาษีเช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมสมาชิกสภาคองเกรสทั้งแปดคนส่งจดหมายไปยัง Internal Revenue Service (IRS) เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายภาษีคริปโตเคอร์เรนซีโดยมีใจความว่า:
“เราได้เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นในเดือนเมษายนของปีนี้ (ปี 2019) เพื่อให้มีการการออกคำแนะนำสำหรับผู้เสียภาษีที่ใช้คริปโตและตอบคำถามมากมายที่เราโพสต์ไว้ อย่างไรก็ตามเรากังวลว่าคำแนะนำล่าสุดมันยังมีคำถามอื่นๆ ตามมามากมายที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่เราพยายามพูดถึงคือการ Forks และ Airdrops”
ที่มา : cointelegraph
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น