ดูเหมือนวา Bitcoin จะพยายามแยกตัวออกมาจากตลาดหุ้น หลังจากที่ราคาได้เพิ่มขึ้นกว่า 15% ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในขณะที่การร่วงลงของตลาดหุ้นนั้นยังคงดำเนินต่อไป แต่คำถามก็คือ Bitcoin ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหรือยัง ?
การแยกตัวออกจากความสัมพันธ์ของตลาดหุ้น
มันเป็นอีกหนึ่งการเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจของ Bitcoin ที่ได้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังจากช่วงสองสัปดาห์ที่มันมีความสัมพันธ์คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน โดยนับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมเป็นต้นมา ราคา Bitcoin ก็ได้ปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 19% จากระดับ $ 5,300 ไปอยู่ที่ $ 6,300
ในขณะเดียวกันตลาดหุ้น S&P 500 ก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 5% แต่ถึงกระนั้นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้กลับร่วงลดลงถึง 4.2% ในวันนี้ทำให้ตลาดหุ้นกลับไปสู่ทิศทางขาลงเช่นเดิม ตรงข้ามกับ BTC ที่ยังคงยืนเหนือระดับ 6,200 ดอลลาร์ในขณะที่รายงาน
ความสัมพันธ์ที่คล้ายคลึงกันในเรื่องของสภาพคล่อง
เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาราคาหุ้นทั่วโลกได้ปรับลดลงอย่างรุนแรง สาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ยังคงสร้างความตื่นตะหนกให้กับผู้คนทั่วโลก รวมถึงแรงสนับหนุนจากอุปทานน้ำมันทำให้เกิดภาวะวิกฤตสภาพคล่อง เหตุการณ์เหล่านี้ได้ส่งผลทำให้นักลงทุนพยายามแปลงสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไปเป็นถือเงินสดแทนและเลือกที่จะเทขายสินทรัพย์ของพวกเขาออกไป ซึ่งนั่นทำให้ดัชนีหุ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน , ทองคำและ Bitcoin ร่วงลดลงอย่างน่าตกใจ
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า Bitcoin จะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยราคาของมันได้ร่วงลดลงกว่า 40% เมื่อสภาพคล่องบนเว็ปเทรดคริปโตฟิวเจอร์เช่น BitMEX และ Deribit ค่อย ๆ จางหายไป สิ่งนี้ส่งผลทำให้การเทขายเริ่มทวีคูณความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นราวกับคลื่นสึนามิที่พัดถล่มพอร์ตของนักลงทุนให้พังพิพาศย่อยยับไปพร้อม ๆ กับราคาของ Bitcoin
ในช่วงเวลานั้น BitMEX ได้ออฟไลน์ไปเป็นเวลากว่าสามชั่วโมง เนื่องจากมีรายงานว่าพวกเขาได้ประสบ “ปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ ” ซึ่งถ้าหาก Bitmex ยังคงออนไลน์อยู่ในขณะนั้นเป็นไปได้ว่าราคาของ Bitcoin อาจจะร่วงลดลงต่ำกว่าระดับ 3,800 ดอลลาร์
Bitcoin จะแยกตัวจากตลาดหุ้นหรือไม่ ?
คำุถามที่ยังคงประเด็นสำคัญที่สุดในช่วงเวลานี้ก็คือ Bitcoin จะแยกตัวออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกได้หรือไม่ ?
ซึ่งคำตอบนั้นก็ยังคงไม่ชัดเจน โดยนับตั้งแต่ที่ Satoshi Nakamoto ได้เปิดตัว Bitcoin ไปเมื่อ 10 ปีก่อน ราคาของมันก็ได้เข้าสู่ช่วงขาขึ้นมาโดยตลอดเป็นผลทำให้ไม่มีข้อมูลในอดีตไหนชี้ชัดได้ว่าคริปโตเคอเรนซี่เบอร์หนึ่งของโลกจะมีลักษณะการเคลื่อนไหวอย่างไรในช่วงตลาดขาลง
แต่อย่างไรก็ตามกรณีที่เลวร้ายที่สุด Bitcoin นั้นอาจมีความสัมพันธ์กันกับตลาดหุ้น ซึ่งเมื่อเราพิจารณาถึงความเสี่ยงของคริปโตเคอเรนซี่แล้ว มันหมายความว่าราคาอาจจะมีการลดลงในอัตราที่เร็วกว่าหุ้น S&P 500 อ้างอิงจากโมเดลการกำหนดราคาของสินทรัพย์การลงทุน อย่างไรก็ตามข้อมูลที่บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ระยะยาวของ Bitcoin จะเหมือนกับตลาดหุ้นนั้นยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากความผันผวนของ BTC มันเป็นเรื่องยากที่ตอบได้อย่างชัดเจน
ในระยะกลางนั้น Bitcoin ไม่มีความเกี่ยวข้องกันหรือมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับตลาดหุ้นในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งสิ่งนี้บ่งชี้ได้ว่าปัจจัยที่จะเป็นตัวผลักดันการเติบโตและการยอมรับของราคา Bitcoin นั้นส่วนใหญ่ไม่ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลก
ดังนั้นหมายความว่ามันจะเติบโตได้อย่างรวดเร็วและเป็นอิสระจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งคุณสมบัติของการเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเก็บมูลค่าได้นี้จะช่วยปกป้องมันจากวัฏจักรช่วงขาลง
ในขณะนี้ Bitcoin อาจพยายามเลียนแบบตลาดทองคำในช่วงปี 2008 เพื่อให้มันมีความสอดคล้องกันในเรื่องของสภาพคล่องกับตลาดหุ้นในช่วงแรก ๆ ก่อนที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในภายหลัง
ที่มา : cryptobriefing
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น