IBM กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ we.trade แพลตฟอร์มการเงินการค้าที่เป็นเจ้าของร่วมกันโดย 12 ธนาคารแห่งในทวีปยุโรป
นาย Ciaran McGowan CEO ของ we.trade กล่าวว่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับทาง IBM จะช่วยแพลตฟอร์มในเรื่องการขยายตัวไปสู่ทั่วโลกในเฟสต่อไป
“ตอนนี้เรามีการความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับทาง IBM ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลกและเรากำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในทวีปเอเชีย , แอฟริกาและละตินอเมริกา” นาย McGowan กล่าว
We.trade มีความโดดเด่นในเรื่องของการเป็นองค์กรด้าน blockchain กลุ่มแรก ๆ ที่ยังคงเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2018 แพลตฟอร์มดังกล่าวถูกก่อตั้งโดยกลุ่มธนาคารเพื่อช่วยให้ธุรกิจ SME ขนาดกลางและขนาดเล็กในยุโรปสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อการค้าได้ง่ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม we.trade มีแผนที่จะใช้เทคโนโลยีภายในองค์กรและลดการพึ่งพา IBM ให้น้อยลงในอนาคต ดังที่ McGowan กล่าวไว้ในงาน Sibos เมื่อเดือนตุลาคมที่กรุงลอนดอน
“มันคือเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับการปรับความสมดุล” นาย McGowan กล่าวในสัปดาห์นี้ในฐานะที่เป็นส่วนของแพลตฟอร์มและในฐานะเป็นผู้ให้บริการทางเทคโนโลยีเพียงรายเดียวในปัจจุบัน “ในตอนนั้น [ในปี 2019] เรามีพนักงานเพียง 7 คนที่บริษัทและมันไม่จำเป็นต้องใช้พนักงาน 7 คนเพื่อเปรียบเทียบข้อกำหนดที่แตกต่างกันทั้งหมดหรือเพื่อเปรียบเทียบความต้องการที่แตกต่างกันทั้งหมด”
การทำงานร่วมกันของบริษัทนั่นทำให้เกิดคำถามว่าใครจะเป็นเจ้าของ IP ซึ่งเมื่อครั้งอดีตสิ่งนี้ได้สร้างปัญหาให้กับ IBM ที่มีคอนโซเทียมด้านบล็อกเชนเยอะมาก
นาย Roberto Mancone CEO คนก่อนของแพลตฟอร์มได้ชี้ไปที่ “ความแตกต่าง” ระหว่าง IP ของ IBM ว่ามันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสร้างแพลตฟอร์มและ IP ของ we.trade
นอกเหนือจากการเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม IBM Blockchain ที่ใช้เทคโนโลยี Hyperledger แล้ว IBM ยังเป็นผู้ถือหุ้นกว่า 7 % ของ we.trade อีกด้วย นาย McGowan กล่าวยืนยัน
ข้อตกลงที่ได้รับการยินยอมโดย we.trade (และ IBM) นั้นเกี่ยวข้องกับการใช้ระบบ multi-cloud ใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ Microsoft Azure หรือ AWS แทนการใช้ IBM Cloud แบบดั้งเดิม
IBM ได้เข้าร่วมกับธนาคารผู้ถือหุ้น 12 แห่งของ we.trade ได้แก่ CaixaBank, Deutsche Bank, Erste Group, HSBC, KBC, Nordea, Rabobank, Santander, SociétéGénérale, UBS และ UniCredit
นาย McGowan กล่าวว่าธนาคารในยุโรปบางแห่งกำลัง “รอที่จะลงเล่น” กับองค์กรด้าน Blockchain โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่การเงินการค้าที่วุ่นวาย
“ผมคิดว่าเนื่องจากมีผู้เล่นเป็นจำนวนมากในพื้นที่และมีธนาคารจำนวนมากบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ ธนาคารในยุโรปจึงกลับไปนั่งเอนหลังรอดูไปก่อน เพราะกลัวว่าอาจมีกรณีที่ระบบอื่น ๆ สามารถทำได้ดีกว่า”
แต่ถึงกระนั้น นาย McGowan ก็ยังกล่าวอีกด้วยว่า เรามีแผนที่จะทำงานร่วมกับ eTradeConnect ของฮ่องกง ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มทางการเงินเพื่อการค้าในรูปแบบ blockchain ที่ก่อตั้งโดย 12 ธนาคารในทวีปเอเชีย โดยรอบการลงทุนมีกำหนดที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนนี้
แหล่งที่มาที่มีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ blockchain และไม่ประสงค์จะเอ่ยนามกล่าวว่า เราคาดหวังว่า IBM จะเริ่มรวมการบริการด้าน blockchain ขนาดใหญ่เช่น TradeLens และ Food Trust เข้าไว้ด้วยกันเพื่อพยายามสร้างเครือข่ายที่สำคัญ
“พวกเราไม่แน่ใจว่ากลยุทธ์นี้จะทำงานได้อย่างไร เพราะต้นทุนการเปลี่ยนแปลงอาจสูงกว่าต้นทุนของการรวมบริการเหล่านั้นเข้าไว้ด้วยกัน” พวกเขากล่าว
ที่มา : coindesk