ในวันนี้เหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 11,420 ดอลลาร์ ซึ่งดูเหมือนว่าค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะทำให้การเสนอราคาของสินทรัพย์ safe-haven นั่นมีมูลค่าสูงมากขึ้น การพุ่งขึ้นของราคาในครั้งนี้ถือว่าเป็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สามแล้วสำหรับ Bitcoin โดยราคาได้พุ่งขึ้นมากว่า 19.57 เปอร์เซ็นต์ในช่วงตลอดสามวันที่ผ่านมา (อ้างอิงข้อมูลจาก Coinbase)
Bitcoin มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสที่สามและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ซึ่งนั่นทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2020
All time high อยู่ใกล้แค่เอื้อม
นาย Josh Rager ผู้ก่อตั้งเว็ปไซค์ Blackroots.com กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า Bitcoin จะยังคงดำเนินการอยู่ในช่วง Bull run ต่อไป เพื่อพุ่งขึ้นแตะทำจุดสูงุสดใหม่ในประวัติศาสตร์
นักวิเคราะห์อธิบายว่าการพุ่งขึ้นล่าสุดของราคา Bitcoin นั่นคล้ายคลึงกับช่วงเริ่มต้น Bull run ในเดือนเมษายน 2019
ย้อนกลับไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม อัตราแลกเปลี่ยน BTC / USD ได้วิ่งไซด์เวย์ไปมาตลอดทั้งเดือน ก่อนที่หลังจากนั้นทั้งคู่จะเริ่มเบรคตัวออกจากแนวโน้มไซด์เวย์พร้อมกับแท่งเทียนขนาดใหญ่ยักษ์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ดอลลาร์ และอีกสามเดือนต่อมามันก็ได้พุ่งทยานไปสู่ระดับ 13,000 ดอลลาร์ในที่สุด
“การปิดราคาของวันนี้น่าอัศจรรย์ยิ่งนักและมันอาจคล้ายกับแท่งเทียน $ 1,000 ในเดือนเมษายน 2019 ซึ่งเป็นการสิ้นสุดของช่วงตลาดขาลงและหนุนให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ $ 13,000”
นาย Victor Dergunov ผู้ก่อตั้งกลุ่มการลงทุน Albright ยังกล่าวด้วยว่า Bitcoin จะสามารถยืนเหนือระดับ 20,000 ดอลลาร์ได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้ แม้ว่าในความคิดของ
เขาจะมองไปที่ผลกำไรมากกว่าที่จะยอมรับคริปโตเคอเรนซี่เป็นกระแสหลักก็ตาม
“Bitcoin ได้รับการจัดประเภทเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่งได้ยอมรับว่ามันเป็นสกุลเงินหรือเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน” เขากล่าวในโพสต์บล็อก
BITCOIN กับเศรษฐกิจมหภาค
ราคา Bitcoin ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการในสินทรัพย์ safe-haven ที่กำลังเฟื่องฟูและความเชื่อมั่นที่ช่วยผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ ATH มูลค่าของสินทรัพย์ทั้งสองได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนที่กำลังหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ และจำนวนผู้ป่วย COVID ในสหรัฐฯ ที่กำลงังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทำให้ธนาคารกลางและรัฐบาลอยู่ในช่วงการใช้มาตรการ QE โดยธนาคารกลางสหรัฐได้คงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้อยู่ที่ใกล้กับระดับศูนย์และในขณะเดียวกันก็ได้กว้านซื้อพันธบัตรรัฐบาลด้วยเงินทุนสำรองกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์
สภาพคล่องของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบสองปี ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเริ่มเข้าใกล้ระดับ All Time Low ที่ -0.9 เปอร์เซ็นต์เข้ามาทุกที ๆ ดังนั้นดูเหมือนว่านักลงทุนจะกำลังเริ่มมองหาสินทรัพย์ safe-haven เพื่อโยกย้ายเงินทุนของพวกเขา และด้วยเหตุนี้ทำให้สินทรัพย์อย่างเช่น ทองคำและ Bitcoin จึงดูสนใจมากยิ่งขึ้น
ที่มา : bitcoinist