ดูเหมือนว่าตอนนี้ Bitcoin ยังมีน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือมากพอที่จะเคลื่อนขับราคาให้พุ่งขึ้นกลับไปที่ช่วงระหว่าง $12,500-$17,000 แต่หลังจากนั้นเป็นไปได้ว่าราคาจะร่วงลงอย่างรุนแรง
นักวิเคราะห์ชื่อดังจากกองทุนเฮดจ์ฟัจด์ Quantum ได้แบ่งปันวิเคราะห์ราคาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เขาได้ตั้งข้อสังเกตว่า ปกติแล้วในช่วงขาขึ้นของ Bitcoin มันมักจะตามมาด้วยการปรับฐานราคาลงลดเสมอ ซึ่ง Bitcoin มีโอกาสพุ่งขึ้นไปแตะระดับ $ 12,500 ได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานมูลค่าของมันก็จะร่วงลงอย่างรุนแรง
“ราคาสามารถไปถึงระดับ $ 12,500 แต่หลังจากนั้น เราคาดว่าราคาจะร่วงลดลงอย่างรวดเร็วใน impulse wave ของโมเดลการปรับฐานราคาที่เก่าแก่ที่สุด” นาย Jan Janssen หัวหน้าทีมฝ่ายกลยุทธ์ของกองทุนกล่าว “เราขอแนะนำให้คุณมอง [ที่] ระดับราคาสำหรับการซื้อขายในระยะสั้น และลืมเกี่ยวกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของราคาในระยะกลาง”
การวิเคราะห์ราคา
จากกราฟ “โมเดลการปรับฐานราคาที่เก่าแก่ที่สุด” ที่ Quntuam นำเสนอ พวกเขาได้ชี้ไปที่สถานการณ์แนวโน้มขาลง ตามภาพด้านล่าง
คำอธิบายทางเทคนิคของพวกเขาชี้ให้เห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกันสองประการคือ ราคาอาจมีการกลับตัวเกิดขึ้นในทันทีหรือราคาอาจมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยก่อนที่จะมีการกลับตัว
ทีมงานของ Quantum ตั้งข้อสังเกตว่าอย่างหลังน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า กราฟราคาด้านบนได้คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นไปถึงระดับ $ 12,500 หรือ $ 17,000 แต่ในที่สุดมันก็จะยอมแพ้และร่วงกลับลงมาทดสอบเส้นแนวโน้มที่ต่ำกว่าของช่วงแนวโน้มขาลง และหากสิ่งนี้เกิดขึ้นราคาก็อาจร่วงลงไปสู่ wave ‘D’ ตามภาพ ซึ่งเป็นระดับราคาที่ต่ำกว่า $ 5,000
“เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงราคาในระยะกลางของ ETH และ BTC จะสร้างความผิดหวังให้กับหลาย ๆ คนในอีก 2-4 เดือนข้างหน้า” ทีม Quantum กล่าว
บริษัทยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทได้เปลี่ยนจากการถือครอง Bitcoin มาเป็นเหรียญ USDT แทนแล้ว ณ ราคาในจุด ๆ นี้
การคาดการณ์ราคา BITCOIN
อย่างไรก็ตามการคาดการณ์ราคา Bitcoin ในครั้งก่อน ๆ ของ Quantum ดูเหมือนจะขัดแย้งกับที่การวิเคราะห์ล่าสุดของพวกเขาอย่างมาก โดยกองทุนได้ทำการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานระดับมหภาคมากมายและได้คาดการณ์ถึงความต้องการ Bitcoin ที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่นำโดยโปรแกรมการซื้อพันธบัตรของ Fed ควบคู่ไปกับอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้กับ 0 ทำให้การคลังสหรัฐฯ กลายเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ปลอดภัยที่สุด แต่ถึงกระนั้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรราย 10 ปีของสหรัฐอเมริกาก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องและปัจจุบันอยู่ที่ใกล้กับระดับ 0.5% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อติดลบ 1%
ผลตอบแทนของพันธบัตรที่ถูกปรับลดลง ทำให้นักลงทุนต่างให้ความสนใจไปที่สินทรัพย์ความเสี่ยง เป็นผลให้ดัชนีหุ้น Wall street มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ในขณะเดียวกันสินทรัพย์ safe-haven ตัวถัดไปอย่างทองคำ เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เพิ่งทำลายสถิติแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช่นเดียวกับราคา Bitcoin ที่เพิ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ $ 12,000 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากหลายคนคาดเดาว่าในไม่ช้ามันจะกลายเป็น “ทองคำดิจิทัล” นาย Jack Dorsey’s CEO ของ Square ได้รายงานรายได้สุทธิของบริษัทที่มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 600 เปอร์เซ็นต์ YoY และมียอดขายรวม 875 ล้านดอลลาร์ผ่านทาง CashApp หรือคิดเป็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นกว่าหกเท่าในปี 2019
นาย Marty Bent หัวหน้าบรรณาธิการของสำนักข่าว Bitcoin-focused ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การลดลงของดัชนีค่าดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ทำให้นักลงทุนต่างพากันผันเข้าสู่ตลาดคริปโต
“DXY กำลังอยู่ที่ปากปล่องภูเขาไฟ ในขณะที่ราคา Bitcoin , ทองคำและหุ้นยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ จึงพยายามกระจายการลงทุนของพวกเขาจากเงินสดไปยัง bitcoin และทองคำ ซึ่งนี่จะทำให้ CashApp มียอดขาย bitcoin รายไตรมาสที่น่าทึ่ง”
ที่มา : bitcoinist