<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา Bitcoin ยังถือว่าแพงเกินไปหรือไม่ในปีนี้และคุณควรซื้อเก็บไว้ไหม ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แม้ว่าราคาของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้นกว่า 60% ในทุก ๆ ปี แต่ปัจจัยพื้นฐานของ Bitcoin และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันก็ทำให้เกิดคำถามต่อไปว่าตอนนี้ BTC ยังคงมีราคาแพงกว่าที่มันควรจะเป็นหรือไม่

ราคา Bitcoin ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมีราคาเพิ่มขึ้นจากระดับ 9,000 ดอลลาร์ไปอยู่ที่ประมาณ 12,000 ดอลลาร์ และการที่มันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 33% ไปอยู่ที่ตัวเลข 5 หลัก ทำให้หลายคนมองว่าตอนนี้สกุลเงินดิจิทัลเบอร์หนึ่งของโลก อาจมีราคาที่สูงมากจนเกินไปและดูเหมือนว่าขบวนรถไฟนี้จะออกจากสถานีไปแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงกลไกเงินฝืดที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าของ Bitcoin และปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคหลากหลายประการแล้ว ราคาของ Bitcoin อาจจะยังคงมีราคาต่ำกว่าที่มันควรจะเป็น

อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับขนาดของตลาดกันก่อน โดยในขณะที่เขียนบทความนี้ มูลค่าตลาดโดยรวมของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 220 พันล้านดอลลาร์ และตลาดคริปโตมีมูลค่าทั้งหมดอยู่ที่ 370 พันล้านดอลลาร์ โดยมีจุดสูงสุดเดิมอยู่ที่ระดับ 800 พันล้านดอลลาร์ในช่วงฟองสบู่คริปโตเมื่อปี 2017

ในทางกลับกันตลาดทองคำนั่นมีมูลค่าทั้งหมดอยู่ที่ 12 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 55 เท่าของตลาด Bitcoin ในขณะที่มูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลกมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ $ 100 ล้านล้าน

ดังนั้นหากเรามองไปที่ตัวเลขข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าตลาด Bitcoin มีขนาดเล็กเพียงใดเมื่อเทียบกับตลาดการลงทุนประเภทอื่น ๆ

วัฏจักรของตลาด Bitcoin

อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าตลาด Bitcoin นั่นยังคงมีอายุที่ค่อนข้างน้อยและเกิดขึ้นมาได้เพียงแค่ทศวรรษเดียวเท่านั้น แต่สิ่งนี้ทำให้เราสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมของ Bitcoin ได้ชัดเจนมากขึ้น โดยยกตัวอย่างเช่น ราคา Bitcoin มักจะมีความผันผวนของราคาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหรือบางครั้งอาจเป็นนาที

แม้ว่าราคาจะปรับตัวร่วงลดลงอยู่หลายครั้ง แต่ราคาก็สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ทุกครั้งและกลายเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สุดตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีอัตรา ROI อยู่ที่ 8,900,000%

นอกเหนือจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในระยะสั้นแล้ว ในระยะยาว BTC ยังมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามวัฏจักรของตลาดอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทฤษฎีที่คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะมีปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวัฏจักรของตลาดแต่ละครั้ง และราคาของมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าวัฏจักรรอบก่อนหน้าเสมอ จนถึงขณะนี้วัฏจักรตลาดของ Bitcoin ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วถึง 3 รอบด้วยกันและคาดว่ารอบนี้ Bitcoin จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปอีกและมีราคาอยู่ที่ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิมของปี 2017 ที่แถว ๆ ระดับ 20,000 ดอลลาร์

โดยคาดว่าวัฏจักรตลาดของ Bitcoin ในรอบนี้ จะสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี 2022 นอกจากนี้ทฤษฎีนี้ยังชี้ให้เห็นอีกว่าเมื่อวัฏจักรของตลาดสิ้นสุดลงราคา BTC อาจพุ่งขึ้นไปจบที่ระดับ $ 100,000 ดังนั้นด้วยเหตุนี้ราคา Bitcoin ในปัจจุบันจึงดูไม่แพงมากจนเกินไป

ปัจจัยพื้นฐานของ Bitcoin ในเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน

เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานเป็นปัจจัยที่ค่อนข้างมีน้ำหนักมากที่สุดสำหรับการกำหนดราคาของสินทรัพย์ ดังนั้นเราควรพิจารณาไปที่คุณสมบัติบางประการของ Bitcoin ที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงวิกฤตการเงินครั้งล่าสุด ซึ่งรัฐบาลโลกได้ริเริ่มการพิมพ์เงินครั้งใหญ่ขึ้นมา จนทำให้บิดาผู้สร้าง Bitcoin ‘Satoshi Nakamoto’ ตัดสินใจที่จะวางอุปทานให้อยู่ในฝั่งที่ตรงกันข้าม

แทนที่จะมีอุปทานที่ไม่จำกัดเหมือนกับสกุลเงินดอลลาร์ ในทางกลับกัน Bitcoin จะถูกจำกัดอุปทานไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ นอกจากนี้การสร้างโทเค็นขึ้นมาใหม่ยังถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าและจะไม่ขึ้นตรงกับหน่วยงานกลางใด ๆ  (เช่นรัฐบาลหรือธนาคารกลาง) โดยหลังจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving เครือข่ายจะทำการปรับลดอุปทานของเหรียญลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในทุก ๆ 4 ปี

ด้วยการทำเช่นนี้อุปทานของ Bitcoin จะลดลง เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งจะเป็นการช่วยลดอัตราเงินเฟ้อได้ในที่สุด ในขณะเดียวกันทั่วโลกก็เริ่มได้เห็นอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงวิกฤต COVID-19 เนื่องจากการพิมพ์เงินเฟียตจำนวนมหาศาลของรัฐบาล

ในทำนองเดียวกันธนาคารยังคงให้อัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับผู้ฝากเงินและบางประเทศยังคงให้อัตราดอกเบี้ยที่ติดลบกับผู้ฝาก ดังนั้นตามคำพูดของผู้เชี่ยวชาญมันอาจบอกเป็นนัย ๆ แล้วว่าราคา Bitcoin ยังคงมีราคาที่ถูกกว่าที่มันควรจะเป็น โดยนาย Robert Kiyosaki ผู้แต่งหนังสือ ‘พ่อรวยสอนลูก’ กล่าวไว้เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า จะมีแต่เพียงคนรวยเท่านั้นที่สามารถซื้อ Bitcoin ได้เมื่อพวกเขาเริ่มรู้ว่า BTC นั่นกำลังเติบโตและมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ Fed กำลังพิมพ์เงินขึ้นมากกว่าล้านล้านดอลลาร์และค่าเงินของก็จะค่อย ๆ ลดลง”

อย่าใช้เวลาอยู่ในตลาดมากเกินไป

แม้ว่า Bitcoin จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 60% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่ Bitcoin ก็ยังคงถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง โดยในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาถือว่าเป็นวันที่ราคา Bitcoin ร่วงลงรุนแรงมากที่สุด โดยมีมูลค่าลดลงเกือบ 50% อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์

แต่หลังจากนั้นไม่นานราคาก็ค่อย ๆ ขยับฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วอยู่ที่ระดับ $ 6,000 และร่วงกลับไปที่ระดับ $4,400 อีกครั้งและก่อนที่จะค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ $ 11,800 ในปัจจุบัน ดังนั้นคำแนะนำในการลงทุนที่ดีที่สุดก็คือ ‘อย่าใช้เวลาอยู่ในตลาดมากจนเกินไป’ และคุณควรใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) เพื่อให้คุณจะได้ไม่พลาดโอกาสที่ดีในการลงทุน

DCA ได้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ จากการวิจัยล่าสุด แม้ว่านักลงทุนจะเริ่มทำการ DCA $ 1 ต่อวัน นับตั้งแต่จุดสูงสุด 20,000 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2017 แต่ถึงอย่างนั้น มูลค่าการลงทุนของพวกเขาก็ยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% ในวันนี้ แม้ว่าราคาจะร่วงลดลงกว่า 40% จากระดับ ATH ก็ตาม

การ HODL และการบริหารความเสี่ยง

ดังที่กล่าวมาข้างต้น คุณไม่สามารถคาดการณ์หาช่วงเวลาที่เหมาะสมในลงทุนได้ ดังนั้นกลยุทธ์ที่คุณควรเก็บเอาไว้ในใจก็คือ วิธีการ Hodl หรือพูดง่าย ๆ ก็คือการถือครอง เหรียญ Bitcoin ไว้ในระยะยาวโดยที่ไม่ขายมัน

อย่างไรก็ตามวิธีการ HODL นั่นหมายความว่าเงินลงทุนของคุณจะไม่สามารถเข้าถึงได้ไม่ต่างอะไรกับการฝากเงินในระยะยาว และหากคุณมีแผนที่จะใช้เงินเหล่านั้นในระยะสั้น คุณก็ไม่ควรที่จะลงทุนใน Bitcoin

สรุป

ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ นักลงทุนอาจเริ่มมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องและเพิ่มประสิทธิภาพการออมของพวกเขา ในขณะที่ธนาคารกลางกำลังพิมพ์เงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มระดับเงินเฟ้อ ขณะเดียวกัน Bitcoin ก็จะเสนอแนวทางป้องกันภาวะเงินฝืดที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าโดยจะมีการจำกัดอุปทานสูงสุดไว้อยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและอุปทานของเหรียญจะถูกปรับลดลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ สี่ปี

สกุลเงินดิจิทัลเบอร์หนึ่งของโลก ดูเหมือนจะเคลื่อนไปตามวัฏจักรของตลาด ดังนั้นตามทฤษฎีแล้วสิ่งนี้ควรเพิ่มความต้องการในเดือนและปีต่อ ๆ ไป เนื่องจากการ Halving อาจทำให้ราคาของมันเพิ่มสูงขึ้น (อีกครั้งในทางทฤษฎี) ซึ่งทำให้ Bitcoin ดูเหมือนตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนในวันนี้

หรืออย่างที่นาย Tyler Winklevoss ผู้ร่วมก่อตั้ง Gemini กล่าวไว้เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “ มันยังไม่สายเกินไปที่คุณจะลงทุนใน Bitcoin”

ที่มา : cryptopotato