ในวันนี้เจ้าหน้าที่ในรัฐยะโฮร์ของมาเลเซียได้เข้าจับกุมบริษัทคริปโต 2 แห่งที่แอบลักลอบใช้ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 600,000 ดอลลาร์ ตลอดช่วงสามปีที่ผ่านมา
อ้างอิงรายงานจากเว็บไซต์ข่าวท้องถิ่น The Star ที่เปิดเผยว่า การบุกค้นดังกล่าวเป็นปฏิบัติการนำโดยคณะกรรมาธิการพลังงานของมาเลเซีย , บริษัทสาธารณูปโภคด้านพลังงาน Tenaga Nasional Berhad (TNB) และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อเข้าจับกุมแก๊งขโมยไฟฟ้าในการขุด Bitcoin ซึ่งมูลค่าความเสียหายกว่า 600,000 ดอลลาร์ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าบุกค้นบริษัทเหมืองขุด 2 แห่งในเมืองอิสกันดาร์ปูเตรี
นาง Nazlin Alim Sadikhi ผู้อำนวยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยะโฮร์กล่าวว่า TNB สูญเงินกว่า 80,000 ริงกิตต่อเดือน เนื่องจากการขโมยใช้ไฟฟ้าของผู้กระทำผิด
“เราพบว่ามีการติดตั้งสายไฟที่ผิดกฎหมายเพื่อให้จ่ายกระแสไฟฟ้าโดยตรงและไม่ผ่านมิเตอร์ ของ TNB” นาง Sadikhi กล่าว
“สถานที่แห่งแรกเชื่อว่าน่าจะเปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 3 ปี ในขณะที่สถานที่แห่งที่สองน่าจะเปิดมาแล้วกว่าสองปี” เธอกล่าวเสริมด้วยว่าค่าไฟฟ้าของทั้งสองแห่งนั้นมีการจ่ายอยู่ที่ประมาณ 30 ถึง 60 ริงกิตมาเลเซียต่อเดือนเท่านั้น แทนที่จะเป็น 80,000 ริงกิตต่อเดือน
“เราพบเครื่องขุด 100 เครื่องในสถานที่แห่งแรกและอีก 48 เครื่องในสถานที่แห่งที่สอง” นาง Sadikhi กล่าว
การลักลอบขุด Bitcoin อย่างผิดกฎหมายในมาเลเซียยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการขุดและการซื้อขาย crypto จะได้รับอนุญาตในประเทศแล้วก็ตาม
ภายใต้กฎหมายมาตรา 37 ของพระราชบัญญัติการจ่ายไฟฟ้าของมาเลเซีย ผู้ที่ขโมยใช้ไฟฟ้าในสถานที่อื่นที่ไม่ใช่ “การติดตั้งภายในประเทศ” จะต้องรับโทษปรับสูงสุดอยู่ที่ 1.2 ล้านดอลลาร์หรือจำคุก 10 ปี อย่างไรก็ตาม The star รายงานว่าบุคคลที่รับผิดชอบต่อการขโมยใช้ไฟฟ้าล่าสุดอาจต้องจำคุกถึง 10 ปีหรือถูกปรับสูงสุดอยู่ที่ 240,000 ดอลลาร์ หากพบว่ามีความผิดจริง
นาย Mohd Satari Mohamad วิศวกรของ TNB กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าบุกค้นสถานที่ติดตั้งที่คล้าย ๆ กันกว่า 90 แห่งในปี 2020 ซึ่งรวมทั้งหมดเป็นจำนวนกว่า 288 แห่งนับตั้งแต่ปี 2018
ที่มา : cointelegraph