ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เหรียญ Altcoin ที่มี marketcap ขนาดเล็กหลายตัวได้สังเกตเห็นถึงความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการเติบโตของอุตสาหกรรม DeFi ได้ส่งผลให้ราคาเหรียญคริปโตหลายตัวพุ่งขึ้นในรูปแบบพาราโบลา
Ethereum ได้เห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากความต้องการในเครือข่าย blockchain ที่เพิ่มสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อราคาในเชิงบวก และในที่สุดราคา ETH ก็พุ่งทยานไปถึง 490 ดอลลาร์ ก่อนที่จะสูญเสียโมเมนตัมและร่วงลดลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 320 ดอลลาร์
ข้อมูลติดตามกระแสเงินทุนไหลเข้าในตลาดคริปโตบ่งชี้ให้เห็นว่า ในขณะนี้นักลงทุนเริ่มหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
จากข้อมูลเผยว่าเว็ปเทรดคริปโตระดับบน (Top-Tier) มีวอลุ่มการซื้อขายเพิ่มขึ้นเกือบ 60% ในช่วงเดือนที่แล้ว ในขณะที่แพลตฟอร์มระดับล่าง ซึ่งเปิดให้มีการซื้อขายเหรียญ altcoins marketcap ขนาดเล็กมีวอลุ่มการซื้อขายเพิ่มขึ้นกว่า 30 %
และที่น่าสนใจก็คือ วอลุ่มการซื้อขายของสถาบันก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยมีกิจกรรมการซื้อขายสัญญา CME Future เพิ่มขึ้นกว่า 36%
ตลาดคริปโตเต็มไปด้วยความผันผวน
ในช่วงตลอดสองสามวันที่ผ่านมา แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งทั้งหมดเริ่มชะลอตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
Bitcoin ซึ่งพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 12,200 ดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นมามันก็เริ่มปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
เหรียญ Altcoins ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการร่วงลงของราคา BTC โดยมีเหรียญคริปโตจำนวนมากที่สูญเสียมูลค่าไปกว่า 50%
เช่นเดียวกับราคาของ Ethereum ที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าลดลงจากระดับสูงสุดที่ 490 ดอลลาร์ไปสู่ระดับต่ำสุดที่ 320 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวที่ร่วงลดลงอย่างรวดเร็วนี้ได้ทำให้ความแข็งแกร่งของตลาดโดยรวมเสียหายอย่างหนัก
เว็ปเทรดคริปโตได้เห็นกระแสเงินไหลเข้าจำนวนมหาศาลในเดือนสิงหาคม
อ้างอิงรายงานล่าสุดจาก CryptoCompare ตลาดคริปโตได้เห็นกระแสเงินทุนไหลเข้าจำนวนมากจากนักเทรดหน้าใหม่และนักเทรดหน้าเก่า
สิ่งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงวอลุ่มการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 58.3% ในเว็ปเทรดระดับบน
“ในเดือนสิงหาคมวอลุ่มการซื้อขายบนเว็ปเทรดระดับบน (Top-Tier) เพิ่มขึ้นกว่า 58.3% ไปเป็น 529,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายของเว็ปเทรดระดับล่างเพิ่มขึ้น 30.2% ไปเป็น 291,000 ล้านดอลลาร์ โดยในขณะนี้เว็ปเทรดระดับบนสุดคิดเป็น 64% ของวอลุ่มซื้อขายทั้งหมด (เมื่อเทียบกับ 60% ในเดือนกรกฎาคม)” รายงานเผย
ที่น่าสนใจก็คือวอลุ่มการซื้อขายของสถาบันเช่น CME ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยรายงานเปิดเผยว่ามีการซื้อขายสัญญา Bitcoin ทั้งหมดจำนวน 203,867 สัญญาในเดือนสิงหาคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 36.3% จากเดือนกรกฎาคม
“วอลุ่มสัญญาซื้อขาย CME Future รายเดือนเพิ่มขึ้น 36.3% นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยมีการซื้อขายสัญญา Bitcoin ทั้งหมด 203,867 สัญญาในเดือนสิงหาคม”
นี่เป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต เนื่องจากมันได้แสดงให้เห็นว่ามีการอัดฉีดเงินทุนใหม่ ๆ เข้ามาสู่ตลาดในช่วงตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดังที่กล่าวมาทั้งหมด มันมีความจำเป็นที่ Bitcoin จะต้องรักษาราคาให้สูงกว่า 10,000 ดอลลาร์และทำให้ตลาดโดยรวมมีพื้นที่ให้เติบโตเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เงินทุนเหล่านี้กลับมาลุกโชนอีกครั้งและนำไปสู่แนวโน้มขาขึ้นต่อไป
ที่มา : newsbtc