CoinFund ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนคริปโตในนิวยอร์กเพิ่งได้ทำการลงทุนในตลาดโทเค็น (NFT) ที่มุ่งเน้นไปที่ศิลปะดิจิทัลในชื่อโปรเจคว่า Rarible
ตามการประกาศในวันที่ 8 กันยายนจาก Rarible เงินทุนจากรอบระดมทุน pre-seed จะถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาตลาด NFT ที่มี “กำกับดูแลโดยชุมชน” แพลตฟอร์ม Rarible ได้เปิดตัวขึ้นเมื่อช่วงต้นปีนี้และเริ่มออกโทเค็นกำกับดูแลที่มีชื่อว่า RARI ในสัปดาห์นี้ โดยราคาของเหรียญได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หลังจากที่เปิดให้ซื้อขายกันบน Uniswap เมื่อช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
Rarible คาดการณ์ว่าภาค NFT จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50% และมีมูลค่าตลาดโดรวมอยู่ที่ประมาณ 315 ล้านดอลลาร์ภายในปีนี้
อ้างอิงจากบล็อกโพสต์ของ CoinFund บริษัทคาดการณ์ว่า “เนื้อหาดิจิทัลทั้งหมดกำลังเกิดขึ้นบนเครือข่าย NFT” โดยบริษัทได้เน้นย้ำถึง “ความหลากหลายของเนื้อหาดิจิทัลออนไลน์ที่สามารถวางไว้บนบล็อกเชนในรูปแบบของ NFT ได้”
“เนื่องจากสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาได้ก้าวไปสู่เทคโนโลยี blockchain ที่เป็นของ NFT อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเนื้อหาดิจิทัลหลายล้านล้านรายการจะย้ายไปยังตลาด NFT ซึ่งสิ่งนี้จะปลดล็อคมูลค่าสภาพคล่องจำนวนมหาศาลและกลายเป็นประเภทสินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนพื้นที่บล็อกเชน”
CoinFund กล่าวอธิบายว่าโทเค็นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่สามารถใช้แทนกันได้เป็นการแสดงสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับเนื้อหาดิจิทัลทุกรูปแบบ
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเน้นย้ำถึงความแตกต่างระหว่าง “การถ่ายภาพโมนาลิซา” กับ “การเป็นเจ้าของผลงานชิ้นเอกของ Leonardo da Vinci จริงๆ” ก็คือ คนที่มีรูปถ่ายไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเข้าชมรายปีสูงถึง 10.2 ล้านดอลลาร์เพื่อดูภาพนี้ได้
“ NFT กำลังจะกลายมาเป็นกลุ่มสินทรัพย์ทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มีมูลค่ามหาศาล เพื่อให้ได้จำนวนเงินนี้มา เราจำเป็นต้องมีสถานที่สำหรับขายประมูลและซื้อขายทรัพย์สินใหม่เหล่านี้”