<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ปอท.เร่งหาตัวนักแฮ็คที่ยิงไวรัสเรียกค่าไถ่ รพ.สระบุรี เรียก 6.3 หมื่นล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่สื่อข่าวในไทยได้ออกมาประโคมข่าวกันอย่างคับคั่งเกี่ยวกับข่าวโรงพยาบาลในจังหวัดสระบุรีที่ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มนักแฮ็คยิงไวรัสเรียกค่าไถ่ Bitcoin มูลค่ากว่า 6.3 หมื่นล้านบาท ล่าสุดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เริ่มออกมาเคลื่อนไหวและเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

อ้างอิงรายงานจากข่าวช่องวันที่ระบุว่า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่สื่อนำเสนอข่าว โรงพยาบาลสระบุรี โดนไวรัส Ransomware เรียกค่าไถ่ 200,000 Bitcoin หรือคิดเป็นเงินไทย 63,000 ล้านบาทนั้น ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองสระบุรี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 14.00 น. จากผู้แทนโรงพยาบาลสระบุรีที่ได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2563 ตามเวลาประมาณ 05.31 น.ว่าได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใครส่งไวรัส Ransomware เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลสระบุรี ทําให้ฐานข้อมูลผู้ป่วย ไม่สามารถใช้งานได้ และภาพสแกนเวชระเบียนผู้ป่วยเสียหายทั้งหมด รวมถึงระบบเครือข่ายระบบโทรศัพท์ภายในก็ไม่สามารถให้บริการได้ โดยคนร้ายได้เรียกค่าไถ่ เพื่อคืนค่าให้ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลสระบุรีสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ทั้งนี้รอง โฆษก ตร. กล่าวในเบื้องต้นว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพร้อมแจ้งกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ ตาม มาตรา 5 , 7 แห่ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่มีโทษจำคุก 1 – 7 ปี และ ปรับตั้งแต่ 20,000 – 140,000 บาท ประกอบกับ ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษจำคุก 3 – 15 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000 – 300,000 บาท และอาจจะมีความผิดอื่นๆ อีก

โดยในช่วงเช้าของวันนี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าการเรียกค่าไถ่ดูไม่สมเหตุสมผลและจำนวนที่เรียกค่าไถ่นั้นก็ดูจนเกินไป ซึ่งไม่มีทางที่โรงพยาบาลจะยอมจ่ายเงินจำนวนนี้อย่างแน่นอน

ตอนนี้เราก็ได้แต่ติดตามรอดูกันต่อไปว่าทางโรงพยาบาลจะหาทางออกในเรื่องนี้กันอย่างไรและทางปอท. จะสามารถกุมจับคนร้ายได้หรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามที่ใครหลายคนกำลังหาคำตอบ