ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาภาค DeFi ของ Ethereum เริ่มมีความนิยมที่ลดน้อยลงเนื่องจากการชะลอตัวของตลาด โดยเหรียญอันดับต้น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Defi มีมูลค่าลดลงกว่า 30-40% จากจุดสูงสุดตลอดกาล จนส่งผลให้เกิดการนองเลือดครั้งใหญ่
ไม่เว้นแม่แต่สินทรัพย์คริปโตตัวอื่น ๆ ที่สูญเสียมูลค่าไปกว่า 40% หลังจากที่เงินทุนในตลาดส่วนใหญ่หลั่งไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่มั่นคงมากกว่าอย่างเช่น Bitcoin
อย่างไรก็ตามยังมีผู้สนับสนุน DeFi ที่โดดเด่นอีกหลายคน และหนึ่งในนั้นก็คือคู่แฝด Winklevoss ซึ่งเป็นมหาเศรษฐี Bitcoin และเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเว็ปเทรดคริปโตชื่อดังอย่าง Gemini โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้พวกเขาได้ออกมาพูดถึงภาค Defi ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในปัจจุบันว่า “พวกเขามองว่าการเงินแบบกระจายอำนาจ (Defi) นั้นเป็นการปฏิวัติอย่างแท้จริง” และไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาไม่ได้คิดอย่างนั้นเพียงลำพัง
คู่แฝด Winklevoss พูดถึง DeFi
แม้ว่าราคาจะร่วงลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่พี่น้อง Winklevoss ก็ยังมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับ DeFi โดยนาย Cameron Winklevoss กล่าวว่า DeFi ไม่เหมือนกับความนิยมของ ICO ในช่วงปี 2017 เนื่องจากในตอนนั้นมันมีการระดมทุนจากเอกสาร White paper และ เหรียญหลอกหลวงที่ผู้สร้างเขียนขึ้นมาในร้านกาแฟ ไม่เหมือนกับ DeFi ที่มีการทำงานอย่างเงียบ ๆ ในฟาร์ม มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กำลังทำงานและได้รับผลตอบแทนในเชิงบวก :
“DeFi ไม่เหมือนกับความนิยม ICO ในปี 2017 ในตอนนั้น ที่มีการระดมทุนจากเอกสาร White paper และเหรียญ shitcoin ก็ถูกเขียนขึ้นมาในร้านกาแฟ ขณะที่ DeFi ใช้ชีวิตและทำงานส่วนใหญ่อยู่ในฟาร์ม มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กำลังทำงานและได้รับผลตอบแทนในเชิงบวก ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งสมมุติ แต่มันคือเรื่องจริง”
การมองโลกในแง่ดีนี้ถูกสะท้อนโดยนาย Tyler Winklevoss และเขาได้แสดงความคิดเห็นที่คล้าย ๆ กันกับแฝดผู้พี่ของเขาเกี่ยวกับความสำคัญของผลตอบแทนในระบบนิเวศ DeFi
“ผลตอบแทนคือสิ่งที่เดิมทีคุณเคยได้รับจากธนาคาร แต่ตอนนี้คุณสามารถรายได้จากสัญญา Smart contract นี่คือการปฏิวัติวงการอย่างแท้จริง #DeFi ”
จุดอิ่มตัวในระยะสั้น
บางคนคิดว่า DeFi กำลังจะถึงจุดอิ่มตัวในระยะสั้น โดยนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดีง “Theta Seek” ได้ตั้งข้อสังเกตว่ามันมีแนวโน้มพื้นฐานหลายประการที่บ่งชี้ว่า การเติบโตของภาค Defi กำลังจะจบลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ :
- ความเสี่ยงของการสูญเสียเงินลงทุนที่เกิดจากความไม่รู้ของผู้ใช้งานและเครื่องมือที่ไม่มีประสิทธิภาพ
- การสูญเสียโมเมนตัมในแง่ของเงินลงทุนที่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาด
- แรงกดดันด้านกฎระเบียบ ในขณะที่หน่วยงานของรัฐบาลจับตามองว่าเงินทุนจำนวนมหาศาลที่ตกอยู่ใน DeFi มาพร้อมกับการแฮ็กและข้อผิดพลาด (bug)
ที่มา : newsbtc