อย่างที่เราทราบกันดีว่า หลังจากที่การชุมชนประท้วงในประเทศไทยเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แอปพลิเคชัน Telegram ก็เริ่มมีอัตราการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ล่าสุดรัฐบาลได้เริ่มออกมาแบนการใช้งานแอพ Telegram แล้ว
อ้างอิงข้อมูลจาก thansettakij ที่รายงานในวันนี้ว่า สํานักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) กองป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ลงนามในเอกสารลับมาก ด่วนที่สุดถึงเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่องขอให้ดําเนินการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์
โดยเนื้อหาเอกสารระบุว่า กสทช.สั่งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกรายระงับการใช้งานแอปพลิเคชันเทเลแกรม (Telegram)
นอกจากนี้คำสั่งของกระทรวงดีอีเอสยังอ้างอิงด้วยว่า หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เรื่องระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะฝ่าฝืนข้อกําหนด ให้สํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดําเนินการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์
ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานแล้วว่า ยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Telegram ของผู้ชุมนุมชาวไทยนั้นได้พุ่งทะลุถึง 110,000+ ไปแล้ว หลังเพจ Facebook ของกลุ่ม ‘เยาวชนปลดแอก’ ได้โพสต์ภาพชักชวนให้ผู้ติดตามไปกดเข้าร่วม channel Telegram
ซึ่งนี่เป็นสถิติที่ค่อนข้างจะน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้แอพที่ผู้คนเลือกใช้เพื่อส่งข้อความมักจะเป็น LINE หรือ Messenger ของ Facebook แต่ทว่าการเลือกใช้ Telegram นั้นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นทางเลือกใหม่ที่อาจทำให้หลาย ๆ คนต้องรู้สึกสงสัยกันไม่น้อย
อย่างไรก็ตามแอพ Telegram นั้นเป็นแอพที่นักเทรด Bitcoin และ cryptocurrency เลือกที่จะใช้กันมานานแล้ว เพราะพวกเขาสามารถมั่นใจได้ว่าไม่ว่ารัฐบาลประเทศไหนก็ไม่สามารถเข้ามาแอบดูข้อความ หรือสั่งปิด channel ได้นั่นเอง ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่ารัฐบาลจะสามารถแบนแอปพลิเคชั่นได้จริง ๆ หรือไม่