ภายหลังจากรายงานความคืบหน้าครั้งสำคัญของ Pfizer และ BioNTech ในการผลิตวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพกว่า 90% เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น ทำให้เกิดการตื่นตัวของตลาดและนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นดัชนี Dow Jones พุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบวันกว่า 1,600 จุด และสามารถปิดบวกได้เกือบ 3%
หรือในราคาทองคำ (XAUUSD) ที่เกิดการตอบสนองอย่างทันทีส่งผลให้ระดับราคาทองคำร่วงลงเกือบ $100 ซึ่งนับเป็นจุดต่ำสุดในรอบเดือนเลยทีเดียว
ส่วนในตลาด Bitcoin นั้นราคาได้ร่วงอย่างรุนแรงมาที่ระดับ $14,800 ก็จริงแต่ทว่าเกิดการดีดตัวกลับอย่างรวดเร็วในช่วงดึกและช่วงเช้าของวัน ทำให้ Sideway ในระดับเดิมที่ $15,400 โดยประมาณ
จะเห็นได้ว่าข่าวดีในเรื่องของวัคซีนที่เป็นความหวังของมวลมนุษยชาตินั้นส่งผลต่อทุกกลุ่มตลาดการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงที่เป็นตลาดสำคัญในช่วงระหว่างการเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระดับโลกไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจหรือโรคระบาด COVID-19 ที่กระจายไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
ซึ่งสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเป็นคู่แข่งกันในอนาคตและน่าจับตาดูที่สุดอย่างทองคำและ Bitcoin นั้นจะตอบสนองกับข่าวโลกอย่างไร ทำไมราคา Bitcoin จึงดีดกลับขึ้นมาได้ เราจะพาไปค้นหาคำตอบกัน
ความกังวลของนักลงทุนทองคำในการเทขาย แต่ไม่ใช่กับนักลงทุน Bitcoin
หลังจากการร่วงลงอย่างรุนแรงของราคาทองคำ (XAUUSD) ถึง 5.5% จาก $1,950 ไปอยู่ที่ $1,850 โดยประมาณ ก็ได้เกิดการรีบาวน์ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,880 ในขณะที่เขียนบทความนี้ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการร่วงลงของราคา Bitcoin แล้วนับว่าทองคำดิจิทัลอย่าง Bitcoin นั้นจะดูแข็งแกร่งกว่ามาก เนื่องจากราคาของมันได้รีบาวน์ขึ้นมาอยู่ในระดับเดิมก่อนที่จะมีการประกาศข่าวดีเรื่องวัคซีน
อีกทั้งการออกมาประกาศข่าวดีสำหรับวัคซีนนั้นดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตัว Bitcoin มากเท่าไหร่ เนื่องจากไม่ได้มีการเทขายทรัพย์สินอย่างเช่นทองคำ โดยปัจจัยสำคัญคือการถือครอง Bitcoin ของบรรดานักลงทุนสถาบันยักษ์ใหญ่เช่น Square, PayPal หรือ MicroStrategy ที่เล็งเห็นประโยชน์ของมันในระยะยาว
ดังตัวอย่างเช่น MicroStrategy ที่เพิ่งเข้าซื้อ Bitcoin มูลค่ากว่า 425 ล้านดอลลาร์เพื่อเป็นสินทรัพย์สำรองหลัก และแนวทางในการถือครอง Bitcoin นั้น Michael J.Saylor ประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้กล่าวว่า “Bitcoin เป็นสินทรัพย์การลงทุนที่น่าสนใจมาก และมีโอกาสเพิ่มมูลค่าในระยะยาวได้”
ซึ่งทำให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันยักษ์ใหญ่ยังมีแนวทางในการถือครองในระยะยาว และจะทำกำไรได้ในเวลาที่เหมาะสมผนวกกับรายย่อยมีที่ความเชื่อว่าราคาของมันจะพุ่งอย่างรุนแรงในปีหน้า จึงทำให้ช่วงนี้เป็นการสะสม Bitcoin ของทั้งนักลงทุนรายเล็กและรายใหญ่ ส่งผลทำให้การประกาศข่าวดีของวัคซีนนั้นอาจจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนกลงทุนในวงการ Bitcoin มากนัก
ในขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ราคาทองคำหลายท่านได้ออกมาเตือนถึงแรงขายที่มากเกินไปในครั้งนี้เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนทองคำและให้จับตาดูในช่วงระยะนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งนักวิเคราะห์อิสระอย่างนาย Robin Bhar แนะนำว่า
“ยังมีนักลงทุนอีกจำนวนมากที่ไม่ตระหนักถึงประสิทธิภาพของวัคซีน นักลงทุนควรรอให้พายุฝุ่นนี้สงบลงก่อนแล้วจึงค่อยเคลื่อนไหวการลงทุนในตลาดทองคำ”
“อีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญเพื่อที่จะดูว่ามันสามารถรักษาระดับแนวรับสำคัญได้หรือไม่ ” เขากล่าวเสริม ทั้งนี้การเทขายของทองคำในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมานับเป็นการร่วงลงของระดับราคาครั้งรุนแรงนับจากช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
จะเห็นได้ว่าการร่วงลงอย่างรุนแรงของราคาทองคำนั้นสวนทางกันกับ Bitcoin อย่างชัดเจนอันเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนใน Bitcoin ทั้งรายย่อยจนไปถึงสถาบันยักษ์ใหญ่ที่นับวันมีแต่จะซื้อเพิ่มและเฝ้ารอการพุ่งขึ้นครั้งรุนแรง
สุดท้ายแล้วทรัพย์สินทางเลือกสองตัวนี้จะเป็นอย่างไรในอนาคต คงต้องใช้ปัจจัยพื้นฐานและด้านเทคนิคไตร่ตรองอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนทุกท่าน