<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เว็บเทรด Bitcoin อับดับหนึ่งในสหรัฐฯ Coinbase เผยเตรียมรองรับการ Stake Ethereum 2.0 ในปีหน้า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเปิดตัว Ethereum 2.0 ดูเหมือนว่า Coinbase ซึ่งเป็นเว็บกระดานเทรด Cryptocurrency ชั้นนำของสหรัฐฯ จะตัดสินใจให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นกับเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกรองจาก Bitcoin แล้ว

ตอนนี้นักเทรดและผู้ที่รอคอยการอัปเกรด ETH 2.0 กันอย่างใจจดใจจ่อได้รับการยืนยันจาก Coinbase อย่างเป็นการแล้วว่าเว็บเทรดจะให้การรับรอง Staking ETH 2.0 และแน่นอนว่า Coinbase ยังเตรียมเปิดให้ซื้อขายโทเค็นใหม่นี้อีกด้วย

Stake และ เทรด Ethereum 2.0 บน Coinbase

ทีมงาน Coinbase ยังยืนยันถึงความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างโทเค็น ETH และ ETH2.0 ดังนั้นผู้ใช้งานจะสามารถเทรดเหรียญทั้งสองนี้ได้ตามความต้องการ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือนักลงทุนควรทราบว่า ในกรณีที่นักลงทุนตัดสินใจที่จะทำการ Staking ในสัญญา Smart Contract ของ Ethereum 2.0 ไปแล้ว เงินเหล่านั้นจะถูกล็อคไว้อย่างไม่มีกำหนด (อย่างน้อยก็สำหรับตอนนี้)

แม้ว่าโทเค็น ETH2.0 ที่ทำการ Staking นั้นจะยังคงถูกล็อคอยู่บนเครือข่าย beacon chain แต่ Coinbase ก็ยังคงมีแผนเปิดให้บริการเทรดระหว่างเหรียญ ETH2.0, ETH และสกุลเงินอื่น ๆ เพื่อรองรับสภาพคล่องให้แก่ลูกค้าของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม Coinbase ไม่ได้มีการกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอนว่าจะเปิดให้บริการ Staking และเทรดเหรียญ ETH 2.0 เมื่อไหร่ แต่บริษัทจะมีการอัพเดทรายละเอียดเพิ่มเติม “เมื่อฟีเจอร์แต่ละอย่างของ ETH 2.0 เริ่มใกล้มีการเปิดตัวเข้ามามากขึ้น” ขณะนี้พวกเขาเปิดเผยแค่เพียงว่า ฟีเจอร์เหล่านี้จะพร้อมใช้งานจริง “ในช่วงต้นปี 2021” และจะพร้อมใช้งานสำหรับเขตอำนาจศาลที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น

Ethereum 2.0 คืออะไร ?

Ethereum 2.0 หรือ ETH 2.0 เป็นการอัพเกรดในส่วนสุดท้ายหลังจาก Frontier, Homestead และ Metropolis โดยในเวอร์ชั่นใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความเร็ว ประสิทธิภาพ และความสามารถในการปรับขนาดของเครือข่าย Ethereum เพื่อให้สามารถประมวลผลธุรกรรมได้มากขึ้นและแก้ไขปัญหาคอขวด โดยคาดว่าจะเปิดตัว Phase 0 ในวันนี้ (1 ธันวาคม 2020)

Ethereum 2.0 แตกต่างจาก Ethereum เวอร์ชั่นแรกอย่างไร ?

Ethereum 1.0 นั้นใช้กลไกประชามติที่เรียกว่า Proof of work (PoW) แต่ Ethereum 2.0 จะเปลี่ยนไปใช้กลไก Proof of Stake (PoS) แทน 

ในระบบ PoW นักขุดจะใช้พลังประมวลผลของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์เพื่อไขปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนและยืนยันการทำธุรกรรมใหม่ โดยนักขุดคนแรกที่แก้ปริศนาได้ จะได้รับการบันทึกธุรกรรมบนบล็อกเชน จากนั้นพวกเขาก็จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ ETH ตอบแทน 

ขณะที่ Proof of Stake (PoS) นั้นกลับแตกต่างกันออกไป โดยแทนที่จะใช้นักขุดเป็นผู้ตรวจสอบการทำธุรกรรม POS จะใช้ validator ที่จะทำการ stake เหรียญ ETH เพื่อรับสิทธิ์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมแทน โดยพิจารณาจากจำนวนเงินที่พวกเขาถือครองและระยะเวลาที่เหรียญถูก Lock เอาไว้ในสัญญา

โดย validator จะต้องคอมเฟิร์มได้ว่าพวกเขาพบเห็นบล็อกจริง และเมื่อมีการยืนยันเพียงพอแล้วธุรกรรมจะสามารถเพิ่มลงบล็อกและบันทึกลงบน blockchain ได้ จากนั้น validator จะได้รับรางวัลสำหรับเหรียญ Ethereum เป็นการตอบแทน

ข้อได้เปรียบที่เห็นได้ชัดของ PoS เลยก็คือประหยัดพลังงานกว่า PoW มาก เนื่องจาก PoW ต้องใช้การประมวลผลคอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาลในการคอนเฟิร์มธุรกรรม นอกจากนี้ POS ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการรักษาความปลอดภัย Ethereum Blockchain ได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

และยังสามารถทำงานร่วมกับโซลูชันแบบ 2 เลเยอร์ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถประมวลผลธุรกรรมได้หลายพันรายการต่อวินาที ทำให้ Ethereum มีศักยภาพที่เหนือกว่า Visa, Mastercard และตัวประมวลผลการชำระเงินที่ทันสมัย

ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่การ Staking นั้นจะกลายมาเป็นฟีเจอร์หลักของ Ethereum และ Coinbase ก็ต้องการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้