การอัพเกรดเครือข่าย Bitcoin ครั้งล่าสุดนั้นได้มีการสร้างรากฐานเพื่อเครือข่ายที่มีความปลอดภัย, มีความเป็นส่วนตัว และดีขึ้นไปอีกสำหรับอนาคตที่จะถึงข้างหน้า
โดยหลังจากที่มีการเปิดตัว full node เวอร์ชัน 0.21.0 ไปแล้วนั้น นักขุดนั้นเริ่มค้นพบว่าเวอร์ชันล่าสุดนี้เริ่มมีการรองรับ Tor address format เวอร์ชันล่าสุด อีกทั้งผู้ใช้งาน Bitcoin ยังสามารถที่จะเลือกจ่ายค่าธรรมเนียมในรูปแบบ satoshi ได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้งานนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือ fee estimator เพื่อคำนวณค่าธรรมเนียมอีกต่อไป
นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถที่จะทดสอบ Taproot code บน signet ของ bitcoin อีกด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการแก้ไขโค้ดบางส่วน 2 มาสองเดือนแล้ว ก่อนที่จะมีการรวม source code เข้ามาก็ตาม
Taproot code เปิดให้ทดสอบแล้ว
การแห่เข้ามาของผู้ใช้งานหน้าใหม่ โดยเฉพาะนักลงทุนส่วนใหญ่นั้นต้องการเครือข่ายที่มีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัว
ซึ่งการอัพเกรดที่หลาย ๆ คนนั้นตั้งตารอนานที่สุดก็คือ Taproot ของ Bitcoin นั้นเอง
ตัวอัพเกรดดังกล่าวนั้นจะมีการเปิดใช้งานผ่าน soft fork โดยมันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการทำงานสคริปต์ของ bitcoin โดยเฉพาะในด้านความเป็นส่วนตัว
ข้อดีของ Taproot
หากไม่มี Taproot นั้น การตรวจจับธุรกรรมด้วยธุรกรรมที่มีความซับซ้อนนั้นจะมีความง่ายดายมากขึ้น
อย่างไรก็ตามธุรกรรมแบบพิเศษเหล่านี้ก็จะถูกซ่อนไว้ นั่นหมายความว่ามันจะเป็นการยากที่บุคคลที่สามนั้นจะสามารถตามติดการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากว่ามันจะมีการหลอมรวมธุรกรรมที่มีความเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น นอกจากนี้บุคคลที่ 3 ที่ต้องการจะติดตามการทำธุรกรรมนั้นจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีการรันสคริปต์ดังกล่าวอยู่
นอกจากนี้ Taproot นั้นยังนำพาการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ มาอีกด้วย โดยมันจะทำให้ Bitcoin นั้นสามารถที่จะ scaling ได้และมีความปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องมีตัวเลือก layer 2 อื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น เราจะได้เห็นการทำธุรกรรมจำนวนมากที่ถูกนำมารวมกันไว้ใน block เดียว ทำให้มีการพัฒนาในด้าน throughput ใน layer ต่ำสุดอีกด้วย
เป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีการติดตั้ง Taproot ภายในปีนี้
ซึ่งมันจะถือเป็นการอัพเกรดครั้งแรกสำหรับ bitcoin หากนับตั้งแต่ครั้งล่าสุดก็คือช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการติดตั้ง SegWit 2X ที่ทำให้ Bitcoin Cash นั้นต้องถูกแยกตัวออกมา
การรวม Taproot เข้ามาพร้อมกับการรองรับ Tor V3 address นั้นทำให้นักพัฒนาคาดการณ์ว่าสิ่งนี้จะสามารถช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งที่ทำให้ Bitcoin นั้นกลายเป็นเหรียญที่มีความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมากที่สุด
ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไป