DBS ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์กำลังอยู่ระหว่างการเปิดตัวแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ แห่งแรกในเอเชียภายใต้ชื่อ “DBS Digital Exchange” โดยจะเปิดให้ซื้อขายถึง 4 สกุลด้วยกันคือ BTC, BCH, ETH และ XRP
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้รับการอนุมัติจากธนาคารกลางและหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศ Monetary Authority of Singapore (MAS)
โดย DBS Digital Exchange จะเปิดให้ผู้ใช้งาน สามารถซื้อขายในสินทรัพย์คริปโตฯ 4 รายการได้แก่ Bitcoin (BTC) , Bitcoin Cash (BCH), Ethereum (ETH) และ XRP กับสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD), ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) เยนญี่ปุ่น (JPY) และดอลลาร์สหรัฐ (USD)
สำหรับการดูแลเงินทุนของลูกค้า DBS Digital Exchange จะใช้บริการของ DBS Bank ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ธนาคารได้ “ปรับใช้ DBS Digital Custody ซึ่งเป็นโซลูชันการดูแลรับฝากสินทรัพย์ระดับสถาบันที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัย” หน้าเว็บเขียนระบุ
DBS Digital Exchange จะพร้อมเปิดให้บริการแก่นักลงทุนสถาบันแบบดั้งเดิม รวมถึงสถาบันการเงินและผู้ดูแลสภาพคล่องมืออาชีพ ในทางกลับกันนักลงทุนรายย่อยจะต้องเข้าถึงแพลตฟอร์มผ่านทางสมาชิก DBS เช่น DBS Vickers Securities (Singapore) และ DBS Private Bank
สิ่งที่ทำให้ DBS แตกต่างจากเว็บเทรดคริปโตฯ อื่น ๆ ในตลาดปัจจุบันก็คือ DBS Digital Exchange จะไม่อนุญาตผู้ใช้ให้ทำการซื้อขายในวันหยุดสุดสัปดาห์และในวันธรรมดาจะจำกัดชั่วโมงการซื้อขายตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 16.00 น.คล้ายกับตลาดหุ้น
Binance ยังไม่ถือว่า DBS เป็นคู่แข่ง
แม้ว่าข่าวการมาของธนาคารยักษ์ใหญ่ในสิงคโปร์อย่าง DBS จะกลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากในปัจจุบัน แต่กระนั้นมันกลับไม่ได้ทำให้เว็บเทรดคริปโตเบอร์หนึ่งอย่าง Binance สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
“พวกเขามุ่งเน้นไปที่นักลงทุนสถาบันแบบดั้งเดิมซึ่งเราไม่มีอยู่แล้ว ดังนั้นจากมุมมองของลูกค้ามันจึงแทบจะไม่มีสิ่งที่เหมือนกันเลย” นาย Changpeng Zhao (หรือที่หลายคนเรียกว่า“ CZ”) ซีอีโอของ Binance กล่าว
“พวกเขากำลังเพิ่มความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของ Cryptocurrency ให้กับนักลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย” นาย CZ กล่าว
DBS Digital Exchange จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Monetary Authority of Singapore และในขณะนี้ยังไม่ทราบวันเปิดตัวที่แน่ชัด
การพัฒนาในครั้งนี้ดูเหมือนจะชี้ให้เห็นว่า Cryptocurrency กำลังเป็นกระแสหลักในทุก ๆ ภูมิภาค โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว PayPal ยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินในสหรัฐฯ กล่าวว่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้ 350 ล้านคนสามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้โดยร่วมมือกับ Paxos ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพชื่อดัง