อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple นาย Jed McCaleb ได้ขายเหรียญ XRP ของเขาประมาณ 135 ล้านเหรียญในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาและมีโทเค็นประมาณ 30.5 ล้านเหรียญที่เหลืออยู่ในบัญชี “tacostand” ของเขา อ้างอิงตามข้อมูลจาก XRPScan
นาย McCaleb ได้เริ่มทำงานกับ Ripple ในปี 2011 และเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้ก่อตั้งเมื่อบริษัทเปิดตัวในปี 2013 ก่อนที่เขาลาออกจากบริษัท เพื่อเข้าทำงานกับ Stellar (XLM) ในปี 2014
McCalebได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญ XRP จำนวน 8 พันล้านเหรียญสำหรับบทบาทของเขาในการพัฒนาและก่อตั้ง OpenCoin ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Ripple ในภายหลัง
McCaleb จะได้รับเงินตามกำหนดอายุสัญญาและเขาได้ชี้แจ้งผ่าน XRP Talk ซึ่งเป็นฟอรัมสำหรับนักลงทุนและผู้สนับสนุนเหรียญ XRP
นาย McCaleb วางแผนที่จะเทขายเหรียญที่เขาได้รับทั้งหมด เนื่องจากเขาได้บริจาคเงินส่วนหนึ่งให้กับองค์กรการกุศลเช่น Give Directly, Literacy Bridge และอื่น ๆ
นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็เทขายเหรียญ XRP เป็นระยะ ๆ และข้อมูลแสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขาได้ขายโทเค็นไปแล้วกว่า 135 ล้านเหรียญ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเกือบ 58 ล้านดอลลาร์
ยอดขายเหรียญ XRP จำนวนมากของ McCaleb เกิดขึ้น ท่ามกลางราคาของ XRP ที่เริ่มฟื้นตัวกลับคืน หลังจากที่ร่วงลงอย่างรุนแรงในระหว่างการฟ้องร้องคดี Ripple Labs กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (SEC) โดยก.ล.ต. สหรัฐฯ กล่าวหาว่า Ripple และผู้บริหารทั้งสองคน “ ได้มีการระดมทุนเงินกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ผ่านการเสนอขายหลักทรัพย์สินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังไม่ได้จดทะเบียน”
ราคาของเหรียญ XRP พุ่งแตะจุดสูงสุดเหนือระดับ 0.7 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว ก่อนที่จะร่วงลดลงจากการฟ้องร้องคดี ซึ่งร่วงลงแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 0.2 ดอลลาร์ ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมามีการซื้อขายอยู่ที่ 0.447 ดอลลาร์ ในขณะที่เขียนรายงานอยู่นี้
