ประเด็นสรุป
- บริษัท Ripple ได้ตอบโต้ต่อการฟ้องร้องของ SEC ว่าพวกเขาไม่เคยดำเนินการ ICO
- Ripple ยังคงยืนยันว่า XRP ไม่ใช่หลักทรัพย์ และทำหน้าที่เป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยน
- ซีอีโอ Brad Garlinghouse ได้อัปเดตข้อมูลเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับคดีความกับ YouTube
Ripple ตอบโต้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของของสหรัฐอเมริกา โดยทางบริษัทได้ปฏิเสธว่า XRP มีสถานะเป็นหลักทรัพย์ และอ้างว่าไม่เคยดำเนินการ ICO
การโต้กลับของ Ripple
ตอนนี้สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกตามมูลค่าตลาดอย่าง XRP ได้ถูกฟ้องร้อง โดยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเหรียญ XRP อย่างไรก็ตาม Ripple ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดในการฟ้องร้องครั้งนี้
ประเด็นหลักของการฟ้องร้องคดีนี้คือ โทเค็น XRP ของ Ripple ได้ละเมิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ปี 1933 ซึ่งการโต้ตอบของ Ripple มีจุดประสงค์ที่ทำให้การจัดประเภท XRP ว่าเป็นหลักทรัพย์เป็นโมฆะ การฟ้องร้องอ้างถึงฟังก์ชันของโทเค็นว่าเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน (medium of exchange) ดังนั้นสำนักงาน ก.ล.ต. จึงไม่มีอำนาจในการควบคุม
Ripple ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า การออก XRP ไม่ใช่การขายหลักทรัพย์ นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า การจัดประเภท XRP เป็นหลักทรัพย์จะ “ทำให้การใช้งานหลักของมันด้อยลง” นอกจากนี้ยังหมายถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยนอีกหลายพันรายการ รวมถึง market maker และตัวแสดงอื่น ๆ ที่จะต้องมาอยู่ภายใต้กระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อน
สำนักงาน ก.ล.ต. ยื่นฟ้อง Ripple ในเดือนธันวาคม 2020 และอ้างว่า Ripple ระดมทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายผ่านการเสนอขาย ดังกล่าว คดีความดังกล่าวสร้างความสั่นสะเทือนในโลกคริปโต และทำให้ราคาของ XRP ดิ่งลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตามตั้งแต่นั้นมาโทเค็นได้ลดลงไปเล็กน้อย
ซีอีโอ Brad Garlinghouse ยังยื่นคำร้องขอเลิกจ้างในคดีฟ้องร้องเขาอีกด้วย เอกสารในการยื่นฟ้องครั้งล่าสุดระบุว่า สำนักงาน ก.ล.ต. อนุญาตให้ XRP ดำเนินการต่อไปได้อีกเป็นเวลาแปดปี ดังนั้นจึงตั้งคำถามถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
ถูกโจมตีจากทุกด้าน
ล่าสุด Ripple เพิ่งยื่นฟ้องคดีความ YouTube สำหรับการหลอกลวง scam เพื่อแจกของแถมเป็น XRP โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท ซึ่งซีอีโอ Garlinghouse ได้ทวีตเมื่อวันที่ 10 มีนาคมเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีความ โดยจะร่วมมือกับ Youtube ในการแก้ปัญหา ซึ่งการแก้ปัญหาใหม่จะเป็นการ “ ป้องกัน ตรวจจับ และกำจัดกลโกงเหล่านี้” ร่วมกัน
นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนรายย่อยที่ได้ยื่นฟ้อง Ripple ซึ่งรวมถึงนักลงทุนรายหนึ่งที่ขาดทุนมากถึง 48 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับ ข้อร้องเรียนก่อนหน้านี้อ้างว่า Ripple ล้มเหลวในการลงทะเบียนเป็นหลักทรัพย์
ความคืบหน้าทั้งหมดนี้ทำให้ Ripple ตกที่นั่งลำบาก ในขณะเดียวกันนักลงทุนจำนวนมากกำลังถือครอง XRP ของพวกเขาและรอคอยคำตัดสินขั้นสุดท้าย หากผลลัพธ์ออกมาล้มเหลวอาจส่งผลกระทบทั่วโลกหรือไม่ก็ได้ อย่างไรก็ตามทางบริษัทได้ระบุว่า 95% ของลูกค้า Ripple อยู่นอกเขตอำนาจศาลของสหรัฐอเมริกา ซี่งประเด็นคดีความอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ Riplpe ก็ได้