ราคา Bitcoin (BTC) ได้ร่วงลงมากกว่า 6% ภายใน 4 ชั่วโมง จากการทำราคาเปิดของแท่งเทียนใหม่ในวันที่ 15 มีนาคม ในขณะที่เขียนราคา BTC มีการซื้อขายอยู่ที่ 55,927 ดอลลาห์ โดยลดลงกว่า 6.85% ในวันนี้ โมเมนตัมของ bitcoin ที่อ่อนแรงลงคาดว่าจะมาจาก 3 ปัจจัยดังต่อไปนี้
ราคาที่ลดลงมาปิดช่องว่าง (gap) ในตลาด CME
หลังจากที่ราคา Bitcoin ได้พุ่งทะลุจุดสูงสุดตลอดกาล (All-time High) เหนือ 60,000 ดอลลาห์เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาได้ลดลงมาและปิดช่องว่าง (gap) ของราคาในตลาด CME ดังที่สยามบล็อกเชนได้รายงานไปก่อนหน้านี้
ตลาดฟิวเจอร์สมีความร้อนแรงอย่างมาก
เมื่อราคาของ Bitcoin เริ่มลดลง อัตรา funding rate ในตลาดฟิวเจอร์สของ BTC ยืนอยู่เหนือ 0.1% ในแพลตฟอร์มการซื้อขายส่วนใหญ่
สิ่งนี้บ่งชี้ว่า ตลาดส่วนใหญ่กำลังต้องการ หรือกำลังซื้อ Bitcoin ทำให้เกิดการซื้อขายที่แออัด
จากข้อมูลของ Bybt.com เผยว่า เทรดเดอร์กว่า 194,541 รายถูก liquidated ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยรวมมูลค่าประมาณ 1.83 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ตลาดฟิวเจอร์สมีการ liquidation เนื่องจากตลาดมีมีความร้อนแรงเกินไป
ในที่สุดการ liquidation ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ราคา Bitcoin ลดลงต่ำกว่า 57,000 ดอลลาร์
เงินฝากเข้าสู่แพลตฟอร์มซื้อขายจำนวนมาก และมีการไหลเข้าของ stablecoin
ก่อนที่ราคาจะลดลง ข้อมูลการวิเคราะห์ on-chain อย่าง CryptoQuant ชี้ให้เห็นว่า มีการฝากเงินจำนวนมากไปที่Gemini ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขาย Bitcoin ชั้นนำในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับ Coinbase และมักจะถูกมองว่าเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสำหรับนักเทรดรายใหญ่
Ki Young Ju ซีอีโอของ CryptoQuant เผยว่า
“มีการฝากเงินจำนวน 18,000 BTC อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมระหว่างกระเป๋าเงินฝากของผู้ใช้กับกระเป๋าเงิน Gemini ค่าเฉลี่ยของเงินที่ไหลเข้าในแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนทั้งหมดพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากการฝากเงินดังกล่าว”
นอกเหนือจากแรงขายจากเจ้ามือแล้ว การเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังมาจากการไหลเข้าของ stablecoin ในแพลตฟอร์มการซื้อขาย ซึ่งก็เป็นสัญญาณขาลงอีกครั้ง
Ki Young Ju ยังเผยอีกว่า การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นจากเงินทุนซึ่งถืออยู่ใน stablecoin มากกว่าสถาบันในสหรัฐฯ ซึ่งเขาอธิบายว่า:
“Coinbase Premium Index มักจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อราคา BTC ทะลุระดับ 20k, 30k, 40k และ 50k และเป็นลบอย่างมีนัยสำคัญเมื่อราคาทะลุ 60k ราคาที่วิ่งขึ้นไปที่ 60k ดอลลาห์นี้ไม่ได้ขับเคลื่อนโดยสถาบันของสหรัฐฯ แต่ทั้งหมดมาจาก Stablecoins มากกว่า “