 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 31 มีนาคมนี้){kind=link}
ภายหลังจากงานประชุม Cardano 360 ที่ถูกจัดขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ นักพัฒนาของ Input Output Hong Kong (IOHK) ได้ออกมาเผยถึงข้อสรุปสำคัญหลัก ๆ เกี่ยวกับการอัพเกรดเหรียญ Cardano (ADA) โดยนอกเหนือจากการมาสาธิตการทำงานของเว็บกระดานเทรดคริปโตแบบ Decentralized อย่างเช่น Uniswap ที่ทำงานอยู่บน Plutus แล้วนั้น ทาง IOHK ยังได้ยืนยันถึงวัน ‘D-Day’ ที่จะถึงอีกด้วย
วันดังกล่าวนั้นจะมีขึ้นในวันที่ 31 มีนาคมนี้ โดยนักพัฒนาของ Cardano ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะทำการมอบอำนาจในการสร้าง block ใหม่ในเครือข่ายไปให้กับ stake pool ของชุมชนผู้ใช้งาน ดังนั้นตัวชี้วัด D-parameter หรือตัวชี้วัดที่ใช้เพื่อวัดความเป็น decentralized ของ Cardano นั้นจะลดลงไปเหลือ 0 โดยทาง IOHK ประกาศว่า
“D-day นั้นถูกยืนยันแล้ว วันนี้พวกเราได้ทำการยื่นข้อเสนอตัวอัพเดตใหม่ไปให้กับ Cardano Blockchain ซึ่งจะเป็นการถ่ายโอนอำนาจในการสร้าง block ใหม่ไปให้กับทาง stake pool operator ในวันที่ 31 มีนาคมนี้ นี่แหละหน้าตาของ Decentralized ล่ะ ไปกันเถอะ!”
นอกเหนือจากการทำตัวให้มีความเป็น Decentralized แล้วนั้น เครือข่ายของ Cardano นั้นยังมี delagator อยู่ที่ 375,000 ราย และมี pool ที่ลงทะเบียนไปแล้วถึง 2,350 pool อีกด้วย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้ blockchain ของ Cardano นั้นได้มีการเปลี่ยนไปใช้ proof of stake กันในช่วง epoch ที่ผ่านมา โดยผู้ก่อตั้งอย่างนาย Charles Hoskinson นั้นกล่าวว่า “มันเป็นการเดินทางที่ยากลำบากมาก”
นอกเหนือจากนี้โครงการของ Cardano นั้นยังมีนักพัฒนาอยู่มากกว่า 1,200 รายที่กำลังสร้าง app บน Cardano และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นไปพร้อม ๆ กับ LLVM ที่สามารถทำให้มีการติดตั้ง smart contract บน Cardano ได้อีกด้วย
Plutus นั้นเป็นแพลทฟอร์ม smart contract ที่คาดการณ์ว่าจะถูกติดตั้งในการ hard fork ครั้งที่ 3 ของ Cardano ที่มีชื่อว่า Alonzo โดยคาดการณ์ว่าจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้หลังการเปิดตัว testnet ของ Plutus แล้ว นอกเหนือจากนี้นาย Silvu Petricescu และ Gerard Moroney หรือผู้บริหารฝ่าย operation และกลยุทธ์ของ IOHK ยังได้ออกมาเผยแผนการในการจับมือกับบริษัทอื่น ๆ อีกด้วย
“การจับมือพาร์ทเนอร์นั้นถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของกลยุทธ์แบบกว้าง ๆ ที่ถือเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างสำหรับ Plutus สิ่งที่เราต้องการที่จะทำให้สำเร็จก็คือการที่นักพัฒนามืออาชีพเหล่านั้นสามารถช่วยให้เราไปถึงในจุด ๆ นั้นได้ ดังนั้นพวกเราจะต้องทำการ QC งานของพวกเราอย่างรวดเร็ว และทดสอบขั้นตอนไปจนกระทั่งถึงการ hard fork ครั้งต่อไป”